ตำรวจตรวจเข้ม "ลาลิซ่า อาบอบนวด" เคยโดนคดีลอบใช้น้ำบาดาล-ต้องขอใบอนุญาตใหม่

ตำรวจตรวจเข้ม "ลาลิซ่า อาบอบนวด" เคยโดนคดีลอบใช้น้ำบาดาล-ต้องขอใบอนุญาตใหม่

ผู้การ น.2 พร้อมกระทรวงทรัพยากรฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบ หลังพบ "ลาลิซ่า อาบอบนวด" เคยเป็นสถานที่เคยลอบใช้น้ำบาดาลแทนน้ำประปา แจงหากต้องการเปิดสถานบริการดังกล่าว ต้องยื่นขอใบอนุญาตใหม่ ของใบเก่าชื่อไม่ตรงกัน

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ ผบก.น.2 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางเข้าตรวจสอบ สถานบริการ ‘ลาลิซ่า อาบอบนวด’ ซึ่งเป็นสถานบริการขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในซอยรัชดาภิเษก 17 แขวงและเขตดินแดง กทม. เพื่อตรวจสอบกรณีมีการลักลอบใช้น้ำบาดาลหรือไม่ หลังจากก่อนหน้านี้ ตำรวจ สน.สุทธิสาร เข้าจับกุมฐานลักลอบเปิดให้ใช้บริการก่อนได้รับใบอนุญาต

หลังเข้าตรวจค้นโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที พล.ต.ต.อรรถพล เผยว่า จากการตรวจค้นในวันนี้ เนื่องจากเมื่อปี 2561 สถานบริการแห่งนี้ เคยมีประวัติถูกดำเนินคดีเรื่องการลักลอบเจาะน้ำบาดาล ดังนั้น พอมีการแจ้งว่าจะเปิดให้บริการอีกครั้ง เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลให้เข้ามาตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง จากการตรวจสอบที่จุดที่เคยลักลอบเจาะขุดน้ำบาดาลนั้น พบว่ามีการโบกปูนทับปิดไปแล้ว และจากการเดินสำรวจโดยรอบบริเวณก็ไม่ปรากฏหลักฐานว่ามีการลักลอบใช้น้ำบาดาล นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำบาดาลยังได้ตรวจวัดค่านำไฟฟ้าของน้ำที่ใช้ในสถานที่ พบว่าตรงกับค่ามาตรฐานของน้ำประปาในวันนี้ ซึ่งวัดจากสถานีจ่ายน้ำประปาบางเขน รวมทั้งยังได้ตรวจเก็บตัวอย่างน้ำประปาจากสถานประกอบการในบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ ซึ่งพบว่าค่าออกมาใกล้เคียงกัน

ผบก.น.เผยอีกว่า ส่วนกรณีการลักลอบเปิดโดยไม่มีใบอนุญาตนั้น ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบไปแล้ว และเมื่อวันที่ 30 ม.ค.ได้ไปประชุมหารือกับสำนักงานเขตดินแดงในการตรวจสอบเรื่องการขอใบอนุญาต พบว่าผู้ประกอบการมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนในเรื่องการตีความข้อกฎหมาย โดยเข้าใจว่าการซื้อใบอนุญาตประกอบกิจการมา สามารถใช้ดำเนินการต่อได้เลย เจ้าหน้าที่ได้มีการชี้แจงเรื่องข้อกฎหมายให้ทราบไปแล้วว่า ไม่สามารถทำได้ เพราะชื่อผู้ประกอบกิจการไม่ใช่บริษัทเดิม จำเป็นต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบคุณสมบัติก่อน หากจะเปิด ต้องดำเนินการได้ 2 วิธี ได้แก่ ยื่นขอใบอนุญาตประกอบกิจการใหม่ / หรือหากจะใช้ใบอนุญาตเดิม ต้องไปประชุมกรรมการบริษัทเดิม ให้เปลี่ยนชื่อกรรมการหุ้นส่วนผู้จัดการ และขอตรวจสอบคุณสมบัติผู้ประกอบการด้วยว่าไม่เป็นบุคคลต้องห้าม

เนื่องจากใบอนุญาตประกอบกิจการเดิมนั้น ชื่อผู้ประกอบกิจการ เป็นชื่อบริษัท หจก.เวนิส และ หจก.ชวาลา เปิดบริการในชื่อ โคปาคาบาน่า แต่ที่จะขอเปิดใหม่นั้น ชื่อผู้ประกอบกิจการ เป็นชื่อบริษัท หจก.ลาลิซ่า 2020 และ หจก.เดวิสโคปาคาบาน่า เปิดในชื่อ ลาลิซ่า ผู้ประกอบการรายใหม่นี้ เป็นชาวไทย และยังไม่เคยยื่นขอตรวจสอบคุณสมบัติต้องห้ามแต่อย่างใด

พล.ต.ต.อรรถพล กล่าวต่ออีกว่า อย่างไรก็ตาม กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 และ สน.สุทธิสาร ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลในเชิงลึกด้วยว่า การประกอบกิจการนี้จะเข้าข่ายการเป็นตัวแทนเพื่ออำพรางอะไรหรือไม่ เพราะอาจไปเกี่ยวข้องกับผู้ที่มีประวัติถูกอายัดทรัพย์ หรืออาจเป็นการดำเนินการเพื่ออำพรางการทำธุรกิจอย่างอื่น

โดยยืนยันว่า ตำรวจได้ข้อมูลแล้วพอสมควร แต่ยังไม่ขอเปิดเผย ได้ให้ผู้ประกอบการ นำเอกสารและข้อมูลเข้ามาแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วย โดยวันนี้ก็ได้เรียกพยาน คือ เจ้าหน้าที่เขต และกรรมการผู้มีอำนาจในบริษัทมาสอบปากคำด้วย ส่วนการลักลอบเปิดนั้น ได้ชี้แจงและกำชับว่าเจ้าหน้าที่จะต้องเข้ามาตรวจสอบอย่างเข้มงวด หากพบว่ายังฝ่าฝืน ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการตรวจสอบสภาพด้านในพบว่า พร้อมเปิดให้บริการประมาณ 80-90% ยังมีบางส่วนที่ปรับปรุงทำระบบไฟอยู่ ทั้งนี้ การที่มีการกระทำผิดเรื่องการลักลอบเปิดไปแล้วนั้น จะส่งผลต่อการพิจารณาใบอนุญาตประกอบการกิจการหรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการที่พิจารณา

คุณกำลังดู: ตำรวจตรวจเข้ม "ลาลิซ่า อาบอบนวด" เคยโดนคดีลอบใช้น้ำบาดาล-ต้องขอใบอนุญาตใหม่

หมวดหมู่: อาชญากรรม

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/crime/2622713

แชร์ข่าว

โพสต์ล่าสุด