สงครามยูเครนจะดำเนินไปทางไหน? ส่อง 5 เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2023
สงครามในยูเครนยืดเยื้อมาจนถึงปี 2023 แล้ว มันจะดำเนินต่อไปอย่างไร มันจะไปจบที่ตรงไหน หรือว่าสุดท้ายแล้ว มันจะยืดเยื้อออกไปอีกจนถึงปี 2024?

- สงครามในยูเครนยืดเยื้อมาจนถึงปี 2023 แล้ว
นักวิเคราะห์หลายคนต่างออกมาคาดเดาสิ่งที่อาจเกิดขึ้นกับความขัดแย้งนี้
ว่ามันจะดำเนินไปทางไหน
- นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า ศึกตัดสินอาจเกิดขึ้นในดูใบไม้ร่วง
หลังจากรัสเซียรวบรวมสรรพกำลังเสร็จสิ้นแล้ว ขณะที่บางคนก็คาดว่า
ยูเครนอาจสามารถชิงดินแดนที่เสียไปกลับมาได้ทั้งหมด
- นอกจากนั้นยังมีความเป็นไปได้ที่ วลาดิเมียร์ ปูติน
จะประกาศหยุดยิงและประกาศชัยชนะ
เพราะการเลือกตั้งสำคัญกำลังใกล้เข้ามา
แต่สิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นเลยคือ การที่สงครามลากยาวสู่ปี
2024
สงครามระหว่างยูเครนกับรัสเซียกำลังจะเข้าสู่ปีปฏิทินที่ 2
รัสเซียเปิดฉากบุกโจมตียูเครนชนิดช็อกคนทั้งโลกเมื่อ 24 ก.พ. 2022
แต่การโจมตีที่ใครๆ ก็คาดว่าจะไม่นานกลับยืดเยื้อถึงทุกวันนี้
เพราะยูเครนตอบโต้อย่างหนัก
ด้วยความสนับสนุนทางการเงินและอาวุธจากยุโรปกับสหรัฐฯ
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นทำให้พลเรือนเสียชีวิตไปแล้ว 6,826 ศพ
บาดเจ็บอีกว่า 10,769 ราย ตามการประเมินของสหประชาชาติ
และเป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดวิกฤติผู้อพยพครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า
100 ปี
เกิดสงครามพลังงานระหว่างสหภาพยุโรปกับรัสเซียส่งผลให้เงินเฟ้อพุ่งสูงไปทั่วโลก
แล้วสงครามครั้งนี้จะดำเนินต่อไปอย่างไร มันจะไปจบที่ตรงไหน
หรือว่าสุดท้ายแล้ว มันจะยืดเยื้อออกไปอีกจนถึงปี 2024?

รัสเซียทุ่มกำลังโจมตีรอบใหม่ในฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูหนาวที่มาถึงทำให้กองทัพของทั้งรัสเซียและยูเครนต้องชะลอปฏิบัติการของตัวเองลง
แต่ฝ่ายยูเครนที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็มในการต่อสู้ใกล้เมืองเครมินนา
และสวาตอฟ ซึ่งอาจทำให้กองทัพรัสเซียต้องถอยร่นถึง 40 ไมล์
ไปยังแนวป้องกันตามธรรมชาติแห่งต่อไป
ซึ่งใกล้กับจุดที่พวกเขาเพิ่มการรุกรานเมื่อเดือนกุมภาพันธ์
ลังเลที่จุดหยุด
นายไมเคิล คลาร์ก ผู้ช่วยผู้อำนวยการสถาบันศึกษายุทธศาสตร์
ในเมืองเอ็กซิเตอร์ ในสหราชอาณาจักร คาดว่า
ยูเครนอาจต้องจำยอมหยุดปฏิบัติการในภาคตะวันตกเฉียงใต้
เพื่อฟื้นฟูเมืองเคอร์ซอน
แต่ก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะข้ามไปทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำดนีโปรเพื่อโจมตีรัสเซียทีเผลอ
มุ่งเป้าไปยังถนนและทางรถไฟสายสำคัญที่เชื่อมกับไครเมีย
แต่จุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2023 คือ
ปฏิบัติการโจมตีในดูใบไม้ผลิของรัสเซีย โดยปูตินเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า
มีทหารเกณฑ์ใหม่ราว 50,000 คนเท่านั้นที่ถูกส่งมาอยู่ในแนวหน้าแล้ว
ขณะที่อีกว่า 250,000
นายกำลังอยู่ในระหว่างการฝึกเพื่อเข้าร่วมสงครามในปีนี้
เมื่อกำลังเสริมของรัสเซียมาถึง สงครามใหญ่อาจจะอุบัติขึ้นอีกครั้ง
และอาจเป็นศึกชี้ชะตาว่า ใครจะเป็นผู้ชนะในสงครามครั้งนี้

ยูเครนชิงดินแดนกลับคืนได้
ถ้าหากว่า กำลังเสริมของรัสเซียไม่ได้สงผลกระทบขนาดนั้น
สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในปี 2023 อีกอย่างหนึ่งคือ
ยูเครนอาจสามารถยึดดินแดนที่ถูกรัสเซียยกครองไปนอกจากแคว้นไครเมีย
กลับคืนมาได้ทั้งหมด
โดยในตอนนี้พวกเขาสามารถชิงคืนพื้นที่ที่เสียไปกลับมาได้มากกว่าครึ่งแล้ว
นับตั้งแต่โดนโจมตีสายฟ้าแลบเมื่อ 24 ก.พ.
ผู้เชี่ยวชาญหลายคนยังคงถกเถียงกันว่า
ยูเครนจะสามารถยึดดินแดนกลับคืนมาได้หรือไม่
แต่ยูเครนแสดงให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าว่าพวกเขามีความมุ่งมั่นขนาดไหน
ทั้งในศึกป้องกันเมืองมาริอูโปล
ที่ทหารจำนวนไม่มากสามารถต้านทานการปิดล้อมของรัสเซียได้นานถึง 82 วัน
ซื้อเวลาล้ำค่าให้กองทัพอื่นๆ
กลับไปรวมตัวกันและรับอาวุธจากชาติตะวันตก
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
กองทัพยูเครนก็เพิ่งมีการโจมตีโต้กลับอันน่าทึ่งในภาคตะวันออกละภาคใต้
จนทหารรัสเซียต้องล่าถอยออกจากเมืองคาร์คิฟ และเมืองเคอร์ซอน
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ นายฟิลิป อินแกรม
อดีตเจ้าหน้าที่ข่าวกรองของกองทัพเชื่อว่า การปลดปล่อยเมือง
เซเวโรโดเนตสก์, เมลิโตโปล หรือแม้แต่เมืองมาริอูโปล
ก็สามารถเป็นไปได้
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือยูเครนของชาติตะวันตก
เพราะหากขาดการสนับสนุนด้านอาวุธไป
คงเป็นเรื่องยากที่ยูเครนจะชิงดินแดนกลับมา
หรือแม้แต่ต้านทานการโจมตีจากรัสเซีย
สงครามยืดเยื้อไม่รู้จบ
นางบาร์บารา ซานเชตตา จากคณะศึกษาสงครามของวิทยาลัย คิงส์ คอลเลจ
ลอนดอน ระบุว่า วลาดิเมียร์ ปูติน คาดว่ายูเครนจะรับความพ่ายแพ้ไปเอง
โดยไม่คาดคิดว่าจะมีประเทศอื่นๆ เข้ามามีส่วนร่วมมากขนาดนี้
ซึ่งนั้นเป็นการคำนวณผิดมหันต์ ทำให้สงครามยืดเยื้อ
และไม่รู้ว่ามันจะไปจบที่ตรงไหน
รัสเซียพยายามใช้ฤดูหนาวเป็นอาวุธ
โจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครน เพื่อทำลายขวัญกำลังใจ
แต่ฝ่ายยูเครนก็พิสูจน์แล้วว่าพวกเขาจะสู้ไม่ถอย
ทำให้สงครามลากยาวออกไปเรื่อยๆ
ในขณะที่ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการเจรจาก็แทบไม่มี
เพราะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งฝ่ายที่ต้องยอมเสียข้อเรียกร้องสำคัญของตัวเอง
ซึ่งไม่น่าเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้
จุดจบของสงครามแบบนี้มักจะมาถึงก็ต่อเมื่อ
ความเสียหายทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน
มากจนทำลายความมุ่งมั่นของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
ผู้นำระดับสูงของรัสเซียอาจหมดกำลังใจก่อน
จนเกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองภายใน หรืออาจเป็นฝ่ายชาติตะวันตก
ที่ทนแรงกดดันภายในประเทศเรื่องค่าใช้จ่ายในสงครามไม่ไหว
และลดการสนับสนุนยูเครนลง
สงครามยูเครนอาจกลายเป็นการต่อสู้ทั้งในสนามรบ, สนามเศรษฐกิจ
และสนามการเมืองอันยาวนาน ซึ่งอาจยังคงดำเนินต่อไปแม้ปี 2023
จะผ่านพ้นไปแล้ว

ปูตินประกาศชัยชนะ
อย่างที่ระบุไปข้างต้น
รัสเซียไม่คาดคิดว่าสงครามในยูเครนจะยืดเยื้อ และปี 2023
ถือเป็นปีสำคัญมากสำหรับรัสเซีย โดยเฉพาะสำหรับ วลาดิเมียร์ ปูติน
เพราะรัฐบาลของเขาต้องเตรียมตัวเพื่อสู้ศึกเลือกตั้งใหญ่ปี 2024
หากเขาจัดการสงครามยูเครนได้ไม่ดี หรือยอมให้สหรัฐฯ
และยูเครนมากเกินไป การหาเสียงของเขาอาจจะมีปัญหา
เหตุผลนี้อาจเพียงพอให้ปูตินมีการตัดสินใจครั้งใหญ่
คือประกาศหยุดยิงด้วยตัวเอง และประกาศชัยชนะ
อ้างว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการปกป้องกลุ่มผู้พูดภาษารัสเซียในภูมิภาคดอนบาส
ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักในสงครามนี้
และสามารถยึดเส้นทางภาคพื้นดินที่เชื่อมต่อรัสเซียกับแคว้นไครเมียได้สำเร็จ
เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของผู้ชนะ
แต่การหยุดยิงนี้อาจอยู่ได้ไม่นาน โวโลดีเมียร์ เซเลนสกี
ผู้นำยูเครนประกาศกร้าวไว้แล้วว่า พวกเขาจะยึดคืนดินแดนกลับมาทั้งหมด
ขณะที่สหรัฐฯ กับนาโต ก็อาจไม่ยอมรามือ
เพราะพวกเขายอมรับไม่ได้ที่จะปล่อยให้ผู้นำเผด็จการได้รับชัยชนะในสงคราม
เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการใหญ่ของนาโตเคยกล่าวเอาไว้ว่า
“ราคาที่เราจ่ายคือเงิน ขณะที่ราคาที่ชาวยูเครนจ่ายคือเลือด
หากรัฐบาลเผด็จการเห็นว่า การใช้กำลังนั้นได้สิ่งตอบแทน
เราทั้งหมดจะต้องจ่ายเยอะกว่านี้อีกมาก
และโลกจะกลายเป็นโลกที่อันตรายมากขึ้นสำหรับพวกเราทุกคน”

ยูเครนได้รับชัยชนะ
นิยามคำว่าชัยชนะของยูเครนคือ
การขับไล่กองทัพรัสเซียออกจากประเทศและชิงดินแดนกลับคืนมาทั้งหมด
รวมถึงแคว้นไครเมีย ที่รัสเซียผนวกรวมเป็นของตัวเองเมื่อปี 2014
ซึ่งโมเมนตัมที่ยูเครนสร้างมา ทำให้เกิดความหวังว่า
พวกเขาอาจทำได้สำเร็จ แม้ตอนนี้จะยังเร็วเกินไปก็ตาม
นายเบน ฮอดจ์ส อดีตผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคยุโรป
กล่าวว่า เขาเชื่อเหลือเกินว่ายูเครนจะทำได้
ความเคลื่อนไหวอาจช้าลงในฤดูหนาว แต่ยูเครนจะรับมือได้ดีกว่ารัสเซีย
เพราะได้รับอุปกรณ์สำหรับใช้ในฤดูหนาวจากทั้ง สหราชอาณาจักร, แคนาดา
และเยอรมนี
ภายในเดือนมกราคม
ยูเครนอาจอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเริ่มปฏิบัติการขั้นสุดท้ายในการปลดปล่อยไครเมียแล้ว
หากพวกเขาสามารถยึดเมืองเมลิโทโปลกลับมาได้สำเร็จ
เพราะมันจะทำให้กองทัพยูเครนสามารถย้ายไปยังทะเลอะซอฟ
ตัดเสบียงและการสื่อสารของไครเมียได้อย่างมีประสิทธิผล
แต่ฝ่ายรัสเซียจะไม่ยอมเสียไครเมีย
นั่นเป็นเหตุผลที่ตอนนี้พวกเขาเสริมกำลังที่เมืองเมลิโทโปล
และหากถึงที่สุดจริงๆ ปูตินอาจตัดสินใจใช้อาวุธต้องห้ามอย่าง
อาวุธเคมี หรือกระทั่งอาวุธนิวเคลียร์
ตามคำพูดของเขาในวันขึ้นปีใหม่ที่ว่า
นี่เป็นการต่อสู้ที่มีอนาคตของชาติเป็นเดิมพัน
ผู้เขียน : ทิตชนม์ สว่างศรี
ที่มา : sky , bbc , globaltimes
คุณกำลังดู: สงครามยูเครนจะดำเนินไปทางไหน? ส่อง 5 เหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในปี 2023
หมวดหมู่: ต่างประเทศ
แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/2591936
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- ไหนบอกหยุดยิง? รัสเซียโจมตีเมืองยูเครนต่อเนื่อง พลเรือนตาย 3 ศพ
- ปูตินสั่งกองทัพหยุดยิง 36 ชม. วันออร์โธดอกซ์คริสต์มาส จี้ยูเครนหยุดด้วย
- ปูตินกร้าว ส่งเรือฟริเกต ติดขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง มุ่งหน้าม.แอตแลนติก
- โลเคชั่นมือถือทำทหารรัสเซียดับอื้อ หลังทหารบางนายไม่ได้ปิดโหมดแชร์พิกัด
- ปูตินเครียด รัสเซียรับทหารตายหมู่ 89 ศพ โดนยูเครนโจมตีตอบโต้เช้าปีใหม่
- ผู้นำยูเครนเตือนรับมือรัสเซียจากการโจมตีที่ยืดเยื้อและยาวนาน