เสน่ห์แสงสุดท้ายทะเลใต้ นักท่องเที่ยวร่วมอำลาปี 2565 เคาต์ดาวน์รับปี 2566

ภูเก็ตคึกคักคนแห่ชมแสงสุดท้ายปี 2565 แน่นแหลมพรหมเทพ มองพระอาทิตย์ดวงโตลับฟ้า ทอดแสงสะท้อนผืนน้ำทะเลเป็นสีทองอร่าม เช่นเดียวกับที่อ่างนาง จ.กระบี่ รวมทั้ง เกาะสมุย ที่มองวิวจากฝั่งอ่าวไทย

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณลานประภาคาร แหลมพรหมเทพ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก ต่างมาเฝ้ารอชมความงามของพระอาทิตย์ตกน้ำ พร้อมทั้งร่วมชมแสงสุดท้ายของปี 2565 ท่ามกลางสภาพอากาศปลอดโปร่ง ท้องฟ้าค่อนข้างแจ่มใส แต่ยังมีขอบเมฆกั้นระหว่างขอบฟ้าและทะเลทำให้ ดวงอาทิตย์ตกลงในขอบฟ้า มองไม่เห็น ดวงอาทิตย์ทั้งดวงเป็นแสงกระจายไปทั่วท้องฟ้า กระทั่งในเวลา 18.20 น. เริ่มมีเมฆบดบังที่ขอบฟ้า ก่อนที่อีก 4 นาทีต่อมา ท้องฟ้าได้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เห็นแสงสุดท้ายของปี ทอดตัวสะท้อนผืนน้ำทะเลเป็นสีทองอร่าม สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก สมกับที่เป็นแหล่งชมพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย และติด 1 ใน 10 ของโลก

น.ส.สรัลพร หญีตบึ้ง กล่าวว่า เดินทางมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาเที่ยวแหลมพรหมเทพเป็นครั้งแรก และอยากจะขอให้พระองค์ภาหายจากอาการประชวร และวันนี้วันสุดท้ายของปีอยากมาดูแสงสุดท้ายของปี แล้วอยากให้สิ่งไม่ดีทิ้งไปกับปีเก่าและเริ่มต้นชีวิตใหม่ในปี 66

ด้าน น.ส.พรรณภัทร บุญแท้ อายุ 26 ปี กล่าวว่า เดินทางมาจากสงขลา มาที่นี่เพื่อชมแสงสุดท้ายของปี และอยากโยนทิ้งสิ่งไม่ดีไปในปีนี้ และเริ่มต้นสิ่งดีๆ ในปีหน้า

ขณะที่ บริเวณชายหาดบ้านหน้าทอน หรือที่รู้จักกันในจุดซันเซต ซึ่งเป็นจุดที่พระอาทิตย์ตกลงกลางอ่าวไทยที่สวยงานที่สุดของเกาะสมุย ต.อ่างทอง อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ได้พากันมาเก็บภาพพระอาทิตย์ตก ซึ่งเป็นแสงสุดท้ายแห่งปี เพื่อเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก ในครั้งหนึ่งที่เดินทางมาท่องเที่ยวบนเกาะสมุย ในช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

ถึงแม้ว่าช่วงที่พระอาทิตย์ตก จะมีเมฆมาบดบังทำให้มองไม่เห็นพระอาทิตย์แบบเต็มใบได้ แต่นักท่องเที่ยวก็ยังคงประทับใจ ที่ได้บันทึกภาพรัศมีของพระอาทิตย์ ที่สาดส่องแสงกระทบกับท้องทะเล จนทำให้ท้องทะเลดูเป็นประกาย ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่พลาดที่จะเก็บภาพแสงสุดท้ายของปีไว้เป็นที่ระลึก และนอกจากนี้นักท่องเที่ยวเองก็ยังอธิษฐาน ให้สิ่งที่ไม่ดีที่เกิดขึ้นกับตนเองในปีนี้ ให้หมดไปกับแสงอาทิตย์สุดท้ายของปี และให้มีแต่สิ่งดีเข้ามาในชีวิต ตั้งแต่พระอาทิตย์โผล่ขึ้นพ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ตามความเชื่อของคนไทย

ส่วน บรรยากาศที่หน้าหาดอ่าวนาง หมู่ 2 ต.อ่าวนาง อ.เมืองกระบี่ นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ จำนวนมาก มารวมตัวกันที่ด้านหน้าย่านการค้าหาดอ่าวนาง เพื่อรอชมแสงอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นแสงสุดท้ายของปี 2565 ก่อนจะเข้าสู่วันปีใหม่ 2566 โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างครึกครื้น บางคนก็มากันเป็นคู่รัก บ้างก็มากันเป็นกลุ่มเพื่อน และครอบครัว เป็นภาพที่ไม่ปรากฏมานานกว่า 2 ปี แล้ว นับแต่โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก ซึ่งนอกจากหาดอ่าวนางแล้ว อีกหลายจุดก็คราคร่ำไปด้วย นทท. อาทิ อ่าวไร่เลย์ เกาะพีพี เกาะลันตา

ขณะตามร้านค้าต่างๆ ในย่านการค้าหาดอ่าวนาง ทั้งร้านของฝาก ร้านอาหาร ผู้ให้บริการรถรับจ้าง และอีกหลากหลายอาชีพกลับมามีชีวิตชีวา มีเงินมีรายได้กันอีกครั้ง เรียกว่ามีความสุขในวันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่กันเลยทีเดียว โดยช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวของ จ.กระบี่ คาดการณ์ว่าจะมีเม็ดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท เนื่องจากห้องพักในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเต็มเกือบทั้งหมด โดย 90 เปอร์เซ็นต์จะเป็น นทท.ต่างชาติ.

คุณกำลังดู: เสน่ห์แสงสุดท้ายทะเลใต้ นักท่องเที่ยวร่วมอำลาปี 2565 เคาต์ดาวน์รับปี 2566

หมวดหมู่: ภูมิภาค

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/south/2591765