ผบช.สตม. รับตำรวจ ตม. 110 นาย ออกวีซ่าแก๊งจีนสีเทา-ต้องกลับมาทบทวนจุดอ่อน
สตม.บุกทลายบริษัททำวีซ่าปลอม ค้นเจอพาสปอร์ตหลายร้อยเล่ม ใช้คอนโดกลางกรุงเป็นสถานที่ลงมือ ขณะที่ "ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์" ผบช.สตม.ยอมรับตำรวจ ตม. 110 นาย มีส่วนเกี่ยวข้องแปลงวีซ่าให้ทุนจีน

สตม. บุกทลายบริษัททำวีซ่าปลอม ค้นเจอพาสปอร์ตหลายร้อยเล่ม ใช้คอนโดกลางกรุงเป็นสถานที่ลงมือ ขณะที่ "ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์" ผบช.สตม. ยอมรับตำรวจ ตม. 110 นาย มีส่วนเกี่ยวข้องปลอมแปลงวีซ่า ให้ทุนจีนสีเทาเข้ามาทำธุรกิจในไทย
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566
ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (บช.สตม.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด
จ.นนทบุรี พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม.
พร้อมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง แถลงผลการจับกุม น.ส.อังศณา เกษมสุข อายุ
34 ปี เจ้าของ บริษัทรับทำวีซ่าแห่งหนึ่ง แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม
กทม. ผู้ต้องหาตามหมายจับ
หลังก่อนหน้านี้ได้นำหมายค้นเข้าตรวจค้นบริษัทดังกล่าว
เพราะมีหลักฐานเชื่อได้ว่า
เป็นบริษัทที่รับทำวีซ่าให้กับลูกค้าชาวต่างชาติ
โดยเป็นผู้ปลอมรอยตราวีซ่าให้กับชาวต่างชาติที่มาใช้บริการ
ผลการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบ น.ส.อังศณา เจ้าของบริษัท
พร้อมลูกน้อง ซึ่งจากการเข้าตรวจค้นพบหนังสือเดินทางของชาวต่างชาติ
ภายในบ้าน จำนวน 700 เล่ม บางส่วนแอบใต้ฝ้าเพดานชั้น 2
บางส่วนวางกระจัดกระจายอยู่ที่ชั้น 1 จึงได้ทำการตรวจสอบพบว่า
มีหนังสือเดินทางจำนวน 124 เล่ม มีรอยตราวีซ่าปลอมในหนังสือเดินทาง
จากนั้นได้ตรวจยึดหนังสือเดินทางทั้งหมด
เพื่อตรวจสอบและนำส่งกองพิสูจน์หลักฐาน และขออนุมัติหมายจับ
น.ส.อังศณา
จากการซักถามปากคำ น.ส.อังศณา รับว่า
ตนเองเป็นผู้ทำวีซ่าปลอมทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว
พร้อมได้ยินยอมให้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นคอนโดแห่งหนึ่งที่ตนเช่าไว้
บริเวณแขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม.
ซึ่งเป็นสถานที่ใช้ทำวีซ่าปลอมลงในหนังสือเดินทางของคนต่างชาติ
โดยจากการเข้าตรวจค้น พบอุปกรณ์สำหรับทำวีซ่าปลอมบางส่วน เช่น
ปากกาที่ใช้ทำวีซ่าปลอม ถุงมือที่สวมขณะเขียน
กระดาษที่ใช้ทดลองเซ็นชื่อให้เหมือนชื่อเจ้าหน้าที่ ตม. แท่นน้ำหมึก
ตราประทับ เป็นต้น
โดยตราประทับบางส่วน น.ส.อังศณา อ้างว่าได้โยนทิ้งไปแล้ว เจ้าหน้าที่ บก.สส.สตม. จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมด พร้อมจับกุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผบช.สตม. ยังเปิดเผยถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประมาณ 110 นาย ต้องสงสัยกระทำผิดเกี่ยวกับการออกวีซ่าให้กับกลุ่มชาวจีนโดยมิชอบว่า จากข้อมูลทราบว่า จะมีการแจ้งข้อกล่าวหา เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ และเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับผลประโยชน์ คาดว่า น่าจะมีการสรุปสำนวนให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ภายในสัปดาห์นี้ ภายหลังที่มีการปรับเฉพาะกล่าวหาทางอาญาแล้ว จึงจะดำเนินการตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัย ตามขั้นตอน เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 110 นาย ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องในการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มชาวจีนเป็นจำนวนที่มากเป็นประวัติศาสตร์
แต่ยืนยันจะไม่มีการปกป้องผู้กระทำผิด ส่วนตัวในฐานะผู้บัญชาการ และหัวหน้าหน่วย ก็จะต้องแสดงความรับผิดชอบ กลับมาทบทวนจุดอ่อน เพื่อแก้ปัญหาไม่ให้เกิดซ้ำขึ้นอีก โดยอาจจะต้องแก้ไปทีละจุด และมองว่าการพบผู้กระทำผิดในหน่วยถือเป็นเรื่องดีด้วยซ้ำ จะได้รู้ว่าต้องแก้อะไรบ้าง แต่ไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่เกิดขึ้น
คุณกำลังดู: ผบช.สตม. รับตำรวจ ตม. 110 นาย ออกวีซ่าแก๊งจีนสีเทา-ต้องกลับมาทบทวนจุดอ่อน
หมวดหมู่: อาชญากรรม
แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/crime/2622671
บทความที่เกี่ยวข้อง:
- 3 ตม.ขอสู้คดีร่วมแก๊งอุ้มรีดจีน ร.ต.ท.โผล่มอบตัวเพิ่มอีก 1 พ.ต.ต.ยังหนี
- หมายจับ 4 นาย แก๊งตำรวจ ตม.บุกอุ้มรีดเงินล่ามสาวจีน ผบ.ตร.สั่งไล่ออก
- เล่นอาญา 157 ตม.กว่า 100 นาย ออกวีซ่าแก๊งจีนเทา ผบช.สตม.คนปัจจุบัน-รอด
- เล่นอาญา ม.157 "3 นายพล สตม." ออกวีซ่าแก๊งจีนสีเทา-จ่อเรียกแจ้งข้อหา
- สัปดาห์หน้าแจ้งข้อหา ตม.เอื้อกลุ่ม "ตู้ห่าว" พบปลอมลายเซ็นรองผู้ว่าฯ
- ผบช.สตม.น้อมรับคำวิจารณ์ "ชูวิทย์" ติงการทำงานในคดี "ผับจินหลิง"