การศึกษาใหม่มนุษย์นีแอนเดอร์ธัลล่าฆ่าช้างตัวใหญ่

ซากกระดูกช้างราวๆ 70 เชือกจากสมัยไพลสโตซีน ถูกพบในทศวรรษที่ 1980 ในเหมืองถ่านหินขนาดใหญ่ที่ต่อมากลายเป็นทะเลสาบ ที่เมืองฮัลเลอ ทางตอนกลางของเยอรมนี แสดงให้เห็นว่าช้างสมัยนั้นมีขนาดใหญ่กว่าแมมมอธขนปุยมาก และใหญ่กว่าช้างเอเชียในปัจจุบันถึง 3 เท่า พบว่าช้างตัวผู้ที่โตเต็มวัยหนักได้ถึง 13,000 กิโลกรัม การล่าสัตว์ใหญ่เหล่านี้และการชำแหละ ถือเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมเพื่อการยังชีพของมนุษย์นีแอนเดอร์ธัล (Neanderthals) ที่อาศัยในพื้นที่แห่งนั้น

ล่าสุด การศึกษาใหม่ของทีมวิจัยนำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีแห่งมหาวิทยาลัยไลเดิน ในเนเธอร์แลนด์ เผยว่า การตรวจสอบซากโครงกระดูกของช้างงาตรงอายุ 125,000 ปี ที่พบใกล้เมืองฮัลเลอ ชี้ว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ธัลอาจอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มขนาดใหญ่กว่าที่เคยเชื่อกันมา โดยพวกเขาน่าจะออกล่าช้างตัวใหญ่ที่ใหญ่กว่าช้างในยุคนี้ การวิจัยยังบ่งบอกว่ามนุษย์นีแอนเดอร์ธัลที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นี้เป็นเวลา 2,000-4,000 ปีนั้น เคลื่อนย้ายน้อยและมีการก่อตัวกลุ่มทางสังคมขนาดใหญ่กว่าที่เคยรู้กัน

นักวิจัยระบุว่า ช้างตัวผู้ที่โตเต็มวัยน่าจะถูกล่าได้ง่ายกว่าตัวเมีย ซึ่งมักจะเคลื่อนตัวเป็นฝูงเพื่อปกป้องลูกของตน ในขณะที่ตัวผู้ที่โตเต็มวัยเป็นสัตว์สันโดษ และมนุษย์นีแอนเดอร์ธัลสามารถถนอมอาหารปริมาณมากได้จากช้างตัวเดียวได้ โดยจะคงอยู่ได้นานหลายเดือน.
คุณกำลังดู: การศึกษาใหม่มนุษย์นีแอนเดอร์ธัลล่าฆ่าช้างตัวใหญ่
หมวดหมู่: ต่างประเทศ
แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/foreign/2622553