จะดูแลลูกให้ดีที่สุด สามีเผยภรรยาป่วยโรคไต ช็อกดับ มอบร่างเป็นอาจารย์ใหญ่

สามีเศร้า เผยภรรยาป่วยโรคไตช็อก หมดสติเสียชีวิต ประสงค์มอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ สัญญาจะดูแลลูกสาว 5 ขวบให้ดีที่สุด

สามีเศร้า เผยภรรยาป่วยโรคไตช็อก หมดสติเสียชีวิตประสงค์มอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ สัญญาจะดูแลลูกสาว 5 ขวบให้ดีที่สุด

วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2566 มีรายงานว่า จากกรณี หญิงวัย 31 ปี ป่วยโรคไต ช็อก หมดสติ ลูกสาววัย 5 ปี โทรขอความช่วยเหลือเพื่อนบ้านให้มาช่วยแต่ไม่ทัน เสียชีวิตก่อน เมื่อกลางดึกวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา พบเป็นบ้านชั้นเดียว ภายในห้องนอนพบศพ นางสาวจริยา อายุ 31 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ข้างเตียงนอน ตรวจสอบภายในห้องนอนไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือถูกทำร้าย พบอุปกรณ์ในการฟอกไต และภาพที่ทุกคนที่พบเห็นสลดใจ เมื่อสามีของผู้เสียชีวิตที่ทราบข่าว เดินทางกลับมาจากทำงานที่กรุงเทพมหานคร ร้องไห้ด้วยความเสียใจตลอดเวลา มีน้องน้ำหวาน อายุ 5 ปี ลูกสาว คอยกอดและปลอบพ่อให้กำลังใจอยู่ตลอดเวลา บอกให้พ่อไม่ต้องเสียใจ ไม่ต้องร้องไห้นะเดียวแม่กลับมาด้วยความไร้เดียงสา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ทั้งนี้ เมื่อช่วงบ่ายวันนี้ ที่ สมาคมอยุธยารวมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา หมู่ที่ 5 ตำบลวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นที่นำร่างของ นางสาวจริยา ผู้เสียชีวิตมาไว้เพื่อรอการตรวจร่างกายจากเจ้าหน้าที่ของทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี หลังจากผู้เสียชีวิตประสงค์มอบร่างให้เป็นอาจารย์ใหญ่ โดยมีนายพีระพันธ์ อายุ 30 ปี สามี และน้องน้ำหวาน รวมถึงครอบครัว มาพร้อมกัน

จากนั้นไม่นาน ทางโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จังหวัดปทุมธานี ได้รับร่างเพื่อไปเป็นอาจารย์ใหญ่ โดยมีสามีและลูกเตรียมนำดอกไม้มาไหว้และพบเจอกันครั้งสุดท้ายท่ามกลางความโศกเศร้า จากนั้น ครอบครัวก็เดินทางมาที่ วัดสุทธิรุจิราราม ตำบลบ้านกรด อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งนำเส้นผม ของผู้เสียชีวิตมาทำพิธีทางศาสนาตามประเพณี โดยจะมีการสวดอธิธรรมศพ 3 คืน

นายพีระพันธ์ สามีผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า เมื่อคืนที่เกิดเหตุลูกสาวพิมพ์มาบอกว่าแม่ล้มที่พื้นหมดสติ ตนจึงรีบวิดีโอคอลกลับไป พอเห็นก็รีบวางแล้วโทรหาเพื่อนบ้านมาดู ส่วนตนเองก็รีบขับมอเตอร์ไซค์กลับมาทันที แต่ก็ไม่ทันภรรยาเสียชีวิตแล้ว

ตนกับภรรยารักกันมานาน 10 กว่าปี ตั้งแต่มัธยมต้น ภรรยาอยู่ ม.3 ตนเองอยู่ ม.2 พอเรียนจบก็ห่างกันจนมาเจอตอนมหาลัยก็กลับมารักกันและใช้ชีวิตร่วมกันจนลมหายใจสุดท้าย ซึ่งเขาเองป่วยเป็นเบาหวานมาตั้งแต่ อายุ 10 ขวบ แต่เพิ่งมาเป็นโรคไต ต้องล้างไต เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ซึ่งเมื่อหลายปีก่อนก็อาการหนักแต่มาตอนนี้ดีขึ้นแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมาล้มแล้วจากไป ตอนที่เรียนจบก็ทำงานที่กรุงเทพฯ ภรรยาก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยอยู่แล้ว แต่พอมารู้ว่าป่วยเป็นโรคไต ต้องมีการฟอกไต ก็เลยไม่ให้แฟนทำงานรวมถึงเป็นช่วงที่มีลูกจึงให้เป็นแม่บ้านอยู่เลี้ยงลูกอยู่กับบ้าน พอมาซื้อบ้านก็มาช่วยกันดูช่วยกันเลือก อยู่ด้วยกันแบบนี้มีความสุข โดยน้องน้ำหวาน ก็จะค่อยช่วยดูแลแม่ในทุกอย่างทั้งเรื่องหยิบจับอะไรแทนได้ทำทุกอย่าง หยิบยา หยิบอะไรได้ก็ช่วยเหลือหมดทุกอย่าง

โดยตนจะไปทำงานที่กรุงเทพฯ ทุกวันไปกลับ 7 โมงเช้าออกจากบ้านไปส่งลูกที่โรงเรียนแล้วก็ไปทำงาน เลิกจากงานประจำก็จะมาวิ่งไรเดอร์ กลับบ้านอีกทีก็ประมาณ เที่ยงคืน หรือ 5 ทุ่มบ้างของทุกวัน ไม่เคยเหนื่อยไม่เคยท้อ ยินดีที่จะทำให้ครอบครัว ต่อไปนี้ก็อยากบอกแฟนครั้งสุดท้ายว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด จะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด เขามองดูอยู่จะได้มีความสุข ซึ่งร่างเขา เขาก็ตั้งใจที่จะบริจาคร่างกายให้ไปเป็นอาจารย์ใหญ่อีกด้วย.

คุณกำลังดู: จะดูแลลูกให้ดีที่สุด สามีเผยภรรยาป่วยโรคไต ช็อกดับ มอบร่างเป็นอาจารย์ใหญ่

หมวดหมู่: สังคม

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/local/2621226