"บิ๊กตู่" โวยสภาล่ม ขอส.ส.อย่าเล่นเกม อําเภอบรบือ-คัดค้าน ซอยพื้นที่แบ่งเขตเลือกตั้ง (คลิป)

“บิ๊กตู่” นั่งรถไฟชมตลาดร่มหุบ ปลื้มคน สมุทรสงครามเชียร์ให้อยู่ต่ออีก 2 ปีก็มีความหมาย นายกฯยิ้มทำสัญลักษณ์มินิฮาร์ตส่งซิกกลับมาแม่กลองอีกแน่ ย้ำพร้อมเป็นนายกฯของคนทั้งประเทศ ซัดสภาล่มถี่เพราะลากกฎหมายไปเล่นเกมการเมือง “รังสิมา” พาชาวบ้านแห่รับแน่น “วราวุธ” ผวายุบสภาตามเสียง “ครูแก้ว” โกลาหลแน่ “วิษณุ” เผยไม่เกิน 28 ก.พ. ประกาศเขตเลือกตั้งใหม่ได้ เชื่อซักฟอก ม.152 สภาไม่ล่ม ยันรัฐบาลพร้อมตอบไม่มีชิ่งหนี กกต.เร่งสปีดแบ่งเขตใหม่ สั่ง กกต.จังหวัดเฟ้นขั้นต่ำ 3 รูปแบบ ส่งรับฟังความเห็นพรรคการเมืองและคนในพื้นที่ “วีระ” พาผู้เสียหายร้องสอบ “แรมโบ้” ฮุบเงินวิ่งเต้นโครงการรัฐ แฉทวง 2 ล้านคืนถูกล็อกคอทำร้าย “เสกสกล” โต้พัลวันโดนดิสเครดิตการเมือง “ตะวัน-แบม” อาการทรงตัวอ่อนเพลีย-น้ำตาลต่ำ

ถนนทุกสายมุ่งเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง แม้จะยังไม่มีสัญญาณจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะตัดสินใจยุบสภาเมื่อใด แต่การลงพื้นที่ตรวจราชการในต่างจังหวัด ถูกจับตาเป็นการแอบแฝงลงพื้นที่พบปะฐานเสียง

“ลุงตู่” นั่งรถไฟชาวแม่กลองแห่รับ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 3 ก.พ. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกฯ ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ จาก พล.ม. 2 รอ. เขตพญาไท กทม.ไปที่สนามกีฬา จ.สมุทรสงคราม ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม จ.สมุทรสงคราม จากนั้นนายกฯและคณะนั่งรถตู้โตโยต้า อัลพาร์ด ทะเบียน 3 กญ 2929 กรุงเทพมหานคร ไปยังสถานีรถไฟลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ขึ้นขบวนรถไฟดีเซลรางที่ 4383 ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ไปยังสถานีรถไฟแม่กลอง (ตลาดร่มหุบ) ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม ติดตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โดย น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่จะย้ายมาพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นำประชาชนมาต้อนรับที่สถานีรถไฟลาดใหญ่และยังมี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มารอต้อนรับ ร่วมนั่งรถไฟไปกับนายกฯด้วย อาทิ นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ส.ส.เขต 4 ราชบุรี พรรคประชาธิปัตย์ นายสินธพ แก้วพิจิตร ส.ส.เขต 1 นครปฐม น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ อดีต ส.ส.กทม. พรรค พปชร. ที่ย้ายมาพรรค รทสช. น.ส.ไพลิน เทียนสุวรรณ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคพลังประชารัฐ และ น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังท้องถิ่นไท มาต้อนรับและร่วมขึ้นรถไฟด้วย

เชียร์อยู่ต่อ 2 ปีก็มีความหมาย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทันทีที่นายกฯเดินทางมาถึงสถานีรถไฟแม่กลอง ได้โบกมือทักทายประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ พร้อมพูดคุยอย่างเป็นกันเอง พร้อมทักทายพ่อค้าแม่ค้าริมทางรถไฟทั้งสองฝั่ง และทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมตะโกนว่า “นายกฯสู้ๆ รักลุงตู่ รักพีระพันธุ์ ลุงตู่อยู่ต่อ 2 ปีก็มีความหมาย” มีประชาชนเข้ามามอบดอกกุหลาบและเซลฟี่ด้วย ขณะอยู่บนขบวนรถไฟนายกฯกล่าวว่า “ดีใจที่ได้มาเจอชาวบ้านและมีความสุข ถึงไม่มานักท่องเที่ยวก็ตื่นเต้นและมาเยอะอยู่แล้ว วันนี้มีความสุข ขอบคุณทุกคนที่มาต้อนรับ” จากนั้นนายกฯรับฟังรายงานสรุปแนวทางการพัฒนาโครงข่ายระบบรถไฟเชื่อมต่อสมุทรสงคราม รับฟังรายงานสรุปเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างระบบระบายน้ำหลักและระบบป้องกันน้ำท่วม ชุมชนเมืองสมุทรสงคราม อ.เมืองสมุทรสงคราม ระยะที่ 1 พร้อมตรวจเยี่ยมวิถีเศรษฐกิจชุมชนสถานีรถไฟแม่กลอง

ส่งมินิฮาร์ตกลับมาอีกสมุทรสงคราม

ต่อมาเวลา 11.48 น. นายกฯและคณะเดินไปยังวัดเพชรสมุทรวรวิหาร สักการะปิดทองและห่มผ้าหลวงพ่อบ้านแหลม นมัสการพระสมุทรวชิรโสภณ ที่ปรึกษาเจ้าคณะ จ.สมุทรสงคราม และเจ้าอาวาสวัดเพชร สมุทรวรวิหาร นายกฯได้สนทนาธรรมกับเจ้าอาวาสวัดเพชรสมุทรวรวิหารว่า จะต้องเร่งรัดและพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งในส่วนของเมืองหลักและเมืองรอง ส่วนใหญ่คนจะไปเมืองหลักเสียเยอะ ไม่ค่อยได้มาเมืองรอง พวกเราต้องรักกัน สร้างเครือข่ายและสร้างความเชื่อมโยงกัน เปรียบเหมือนเราเป็นครอบครัวใหญ่ที่มีลูกเยอะ เราจะทำอย่างไรให้ลูกเราเจริญเติบโตได้ ขอกราบพระอาจารย์ที่อวยพรให้ประสบความสำเร็จในการทำเพื่อบ้านเพื่อเมืองและชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ จากนั้นนายกฯขึ้นรถและลดกระจกรถลง มีชาวบ้านตะโกนว่า “นายกฯ สู้ๆ”นายกฯยิ้มพร้อมทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูและมินิฮาร์ต พร้อมกล่าวว่า “สวัสดีนะคะ” ก่อนที่ชาวบ้านบอกว่า “ลุงตู่แล้วมาแม่กลองอีกนะ” นายกฯตอบว่า “ต้องมาสิ ไม่มาก็ส่งใจมาทุกวันอยู่แล้วละน่า”

ลั่นพร้อมเป็นนายกฯคนไทยทั้ง ปท.

ต่อมาเวลา 13.20 น. นายกฯและคณะเดินทางต่อมายังวิทยาลัยเทคนิคสมุทรสงคราม ต.ลาดใหญ่ อ.เมืองสมุทรสงคราม หารือแนวทางการส่งเสริมเศรษฐกิจ สร้างมูลค่าและยกระดับรายได้ประชาชนสมุทรสงคราม พร้อมรับฟังปัญหาของกลุ่มเกษตรกร โดยมี น.ส.กุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี เขต 1 พรรค พปชร.มาต้อนรับนายกฯเพิ่มอีกคน ช่วงหนึ่งมีตัวแทนชาวสวนผลไม้ระบุว่า ถ้านายกฯแก้ไขปัญหาได้ จะเลือกให้เป็นนายกฯต่ออีก 2 ปี จากนั้นนายกฯกล่าวว่ามา มารับฟังความเห็นเพื่อรับทราบข้อเท็จจริง นำไปพิจารณาว่ายังติดขัดมีอุปสรรคตรงไหน ยอมรับว่ามีปัญหาเดิมอยู่บ้าง แต่จะรับไปดำเนินการให้เร็วที่สุด เข้าใจแต่เมื่อสักครู่ไม่ชอบอยู่อย่างหนึ่งคือที่พูดว่าจะยินดีให้เป็นนายกฯอีก 2 ปี หากแก้ปัญหาให้ได้ ไม่จำเป็นหรอก ต้องการทำงานให้กับประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มอาชีพ ทุกจังหวัด ทุกพื้นที่ เป็นนายกฯที่คิดถึงคนทั้งประเทศ บอกได้แค่นี้แล้วกัน มายืนตรงนี้ด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์

ชอบพูดความจริงไม่มาหาเสียง

นายกฯกล่าวว่า ช่วงนี้เป็นช่วงที่เรียกว่าเป็นประชาธิปไตยของทุกคน คิดเอาแล้วกันว่าสิ่งที่พูดมานั้น ตนทำได้มากน้อยแค่ไหน อะไรทำไม่ได้จะไม่พูด ไม่ได้มาหาเสียงจากท่านโดยเด็ดขาดตลอดระยะเวลา 8 ปี หรือไม่ว่าจะเมื่อไหร่ก็ตาม ไม่เช่นนั้นจะทำให้ระบบงบฯเสียหาย ขอให้ลองดูก็แล้วกัน วันนี้ทุกคนไม่ชอบความจริง แต่ตนชอบพูดความจริง อาจจะไม่ถูกใจบ้างต้องขอโทษ เพราะเป็นคนแบบนั้น ไม่สามารถปกปิดอะไรเพื่อให้มารักชอบ ทำไม่ได้ เพราะมันมีปัญหากับประเทศและระบบงบฯของประเทศ และความน่าเชื่อถือทางการเงินการคลัง ถ้าเราทำตรงนี้เสียหายทุกอย่างจะล้มหมด แต่ยืนยันจะทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน อาจฟังดูว่านายกฯเครียดอะไรหรือเปล่า ไม่ได้โกรธใครเลย แต่เสียงมันเป็นอย่างนี้เอง บางเวลายิ้มหัวเราะได้ แต่พอเป็นงานเป็นการก็เป็นแบบนี้คิดอยู่ตลอดเวลา

ขอพรคนไทยไร้ความขัดแย้ง

ช่วงท้าย พล.อ.ประยุทธ์ถามว่า มีใครจะถามอะไรไหม เมื่อเช้านั่งรถไฟมาสนุกดีเห็นในรูปอยากมาตั้งนานแล้วที่ตลาดร่มหุบ คนมาเต็มบนรถไฟ คนต่างประเทศเต็มไปหมด เขาตื่นเต้นกับตลาดร่มหุบ และตื่นเต้นเป็น 2 เท่าที่ได้เจอนายกฯไทย ตนก็งงๆ เขาก็ต้อนรับตนดี ทั้งที่ไม่รู้จักกัน แต่เขารู้ว่านี่คือนายกฯแน่นอน ถ่ายรูปกันไป ตนก็ขอบคุณในนามประเทศไทยและชาวสมุทรสงคราม ยินดีที่ท่านมาเที่ยวทำให้เศรษฐกิจฐานรากของเราดีขึ้น ตนไปไหนไม่เห็นมีใครรังเกียจประเทศไทย เขาชื่นชมว่าเราทำได้ ทันทีที่นายกฯพูดถึงตรงนี้ไฟเกิดดับชั่วขณะ นายกฯจึงลงจากเวทีมาทักทายประชาชน พร้อมชมว่า “ยิ้มสวย ผมก็อยากยิ้มเหมือนกัน แต่ยังทำไม่ได้” ช่วงเช้าไปไหว้พระได้ขอพรให้คนไทยทุกคนเพื่อให้ประเทศเรียบร้อย มีความสุข ไม่ได้ขออะไรเพื่อตัวเองมากมาย ขออย่าทะเลาะกัน ขัดแย้งกัน พูดกันดีๆ วันนี้ถ้าพูดไม่เพราะ ขอโทษด้วยแล้วกัน ถึงนายกฯจะพูดไม่เพราะ แต่มีหัวใจให้กับพวกเราทุกคน

ซัดสภาล่มถี่ลาก ก.ม.ไปเล่นเกม

เมื่อเวลา 15.05 น.ที่วิทยาลัยเทคนิคสมุทร สงคราม จ.สมุทรสงคราม พล.อ.ประยุทธ์ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 เรียกร้องให้ยุบสภาหลังสภาล่มบ่อยว่า ได้ขอร้องพรรคร่วมรัฐบาลดูว่ามีปัญหาอยู่ตรงไหน ส่วนใหญ่เป็นปัญหากฎหมายแต่ละฉบับของใครก็รู้กันอยู่ กรุณาทำหน้าที่ให้ดีที่สุดแล้วกัน ตนทำหน้าที่ฝ่ายบริหารของตน ไม่เคยไปก้าวก่ายอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ ฉะนั้นต่างคนต่างทำหน้าที่แล้วกันให้ดีที่สุด ประชาชนแยกแยะเอาเอง เลือกเอาเอง เลือกจะฟัง เลือกจะเชื่อกันเอาเองแล้วกัน ที่ผ่านมาหลายอย่างเสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว อย่างถนน ความยากจน อาชีพ แต่ต้องทำต่ออีก การใช้จ่ายและการบริหารประเทศของรัฐบาลเดินเป็นระยะๆเข้าใจหรือไม่ จะกี่ปีกี่เดือนก็แล้วแต่เถอะ อันไหนที่เป็นปัญหาคาราคาซังอยู่ ต้องดึงออกมารื้อ หาวิธีการใหม่ ฝากไว้กับบรรดา ส.ส.ช่วยดูเรื่องกฎหมายด้วยแล้วกัน กฎหมายบางอย่างที่เราพยายามเร่งแต่ออกไม่ได้ เพราะไม่เข้าใจกัน ไม่อยากให้ประเด็นกฎหมายหรือ พ.ร.บ.ที่เสนอเข้าไปถูกเรียกว่าการเมือง แต่เป็นเรื่องของประชาชน กฎหมายทุกตัวไม่ใช่ของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นของประชาชนทั้งประเทศ

ลงปาร์ตี้ลิสต์เดี๋ยวตอบทีหลัง

เมื่อถามว่า การลงพื้นที่ เสียงของประชาชนเชียร์ให้ พล.อ.ประยุทธ์อยู่ต่อ โดยเฉพาะวันนี้มีประโยคเชียร์ว่า 2 ปีก็มีความหมาย และมีข่าวว่าจะลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 พรรค รทสช. พล.อ.ประยุทธ ์กล่าวว่า เดี๋ยวว่ากัน นายกฯจะตัดสินใจอีกที เรื่องของนายกฯ อย่าตอบตอนนี้ บางเรื่องตอบทีหลังก็ได้ แต่วันนี้ยืนยันว่าจะทำหน้าที่ของตัวเองให้เต็มที่ ไม่ว่าจะอยู่สถานะใดก็ตาม เมื่อถามว่า ได้คุยกับนายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกฯ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค รทสช.แล้วหรือยัง พล.อ.ประยุทธ์ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม

“วิษณุ” เชื่อซักฟอก ม.152 สภาไม่ล่ม

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ กล่าวถึงกรณีนายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคเสรีรวมไทย ตั้งข้อสังเกต พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แนะนำผู้สมัคร ส.ส.ระหว่างลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ราชบุรี เข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ว่าไม่ได้ดู ไม่รู้ว่า พล.อ.ประวิตรไปไหน ไปทำอะไร แม้แต่นายกฯ ก็ไม่รับรู้ ส่วนสภาล่มบ่อย ไม่ได้ทำใจอะไร วันที่ 7 ก.พ.จะเสนอ พ.ร.ฎ. ถ้าหากล่มก็ไม่ต้องประชุม แต่ไม่เป็นเหตุให้ยุบสภา เพราะหากยุบไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้ และจะนับหนึ่งเร็วเกินไปจนยุ่งกันทุกพรรค จากนี้จะไม่มีกฎหมายของรัฐบาลที่จะเสนอต่อสภาฯ แล้ว จะเหลือการประชุมสภาฯ 4 ครั้ง หักอภิปราย ทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 จะเหลือ 3 ครั้ง คิดว่าการอภิปราย 152 จะประชุมได้

รัฐบาลพร้อมตอบไม่ชิ่งหนี

เมื่อถามว่า รัฐบาลเล่นเกมกลับเพื่อให้สภาล่ม จนฝ่ายค้านไม่สามารถอภิปรายได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ทราบ รัฐบาลไม่เล่นเกมอยู่แล้ว แต่ ส.ส. เล่นของเขากันเองอยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลกำชับเรื่องนี้ ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 31 ม.ค. นายกฯ กำชับอีกครั้งหนึ่งว่าการประชุมสภาเหลืออีกไม่กี่ครั้ง ขอให้ช่วยรักษาเกียรติประวัตินี้เอาไว้ และยืนยัน อภิปราย 152 ไม่มีปัญหา เพราะรัฐบาลพร้อมที่ จะตอบ แต่หากองค์ประชุมไม่ครบด้วยเหตุใดไม่ทราบ แต่ถึงอย่างไร ถ้าไม่มีใครขอให้นับองค์ประชุมไม่เป็นไร เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า หากวิปรัฐบาลไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมสภาได้ พรรค ภท.จะไม่ร่วมเป็นองค์ประชุม นายวิษณุ กล่าวว่า ต้องไปถามพรรค ภท. ไม่ทราบและเป็นบางคนเท่านั้นที่ประชดกันไปประชันกันมา

เขต ลต.ใหม่ประกาศไม่เกิน 28 ก.พ.

นายวิษณุ ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเตรียมจัดการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า กกต.ได้ประกาศหลักเกณฑ์การแบ่งเขตเลือกตั้งลงราชกิจจานุเบกษาแล้ว ขณะนี้กำลังทยอยส่งรูปแบบเขตเลือกตั้งที่แบ่งใหม่ตามกฎหมายลูก ให้ กกต.จังหวัดและ ผวจ.นำไปรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ จากนั้นเมื่อรับฟังเสร็จแล้ว จะส่งกลับมายัง กกต.เพื่อสรุปและเตรียมประกาศในราชกิจจานุเบกษา กกต.ได้แจ้งมาว่าจะประกาศเขตเลือกตั้งในราชกิจจา นุเบกษาได้ภายในวันที่ 28 ก.พ.หรือเร็วกว่านั้น

“วราวุธ” หวั่นยุบสภาตอนนี้วุ่นแน่

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีรองประธานสภาฯ จากพรรค ภท.จี้นายกฯ ให้ยุบสภา เนื่องจากสภาฯ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ว่า ตั้งแต่อยู่การเมืองมาไม่ค่อยเห็นรัฐบาลอยู่มายาวจนเกือบครบวาระ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกเข้าใจได้เพราะผู้แทนฯ แต่ละคนต้องการลงพื้นที่เต็มที่ บางครั้งไม่มากันครบได้เข้าใจทั้งสองฝ่าย หากยุบตอนนี้จะโกลาหล อย่างที่ กกต.บอกว่าแบ่งเขตยังทำไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์คงต้องอดทนรอกันอีกไม่เกินเดือนคงได้ยุบสภา เตรียมตัวเลือกตั้งเต็มที่แล้ว ส่วนรัฐมนตรีเป็นนักการเมืองที่เข้าสู่โหมดเลือกตั้งกันทุกคนเหมือนกัน ทำให้การทำงานในสภาอาจติดขัดช่วงเดือนนี้ แต่ช่วงอภิปรายมาตรา 152 น่าจะครบองค์ประชุม ไม่น่าจะขาดกัน

แอบหวังปักธง กทม. 1 เขต

เมื่อถามถึงกรณีที่นายสุรทิน พิจารณ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ บอกมีข้อมูลนายกฯจะยุบสภาวันที่ 9 มี.ค. นายวราวุธกล่าวว่า อยู่ในวิสัยที่เป็นไปได้ พ้นเดือน ก.พ.ไปแล้ว หากจะยุบสภาวันที่ 9 หรือ 15 หรือ 20 มี.ค. เวลาสิบกว่าวันไม่ได้ต่างอะไรกัน สภาปิดสมัยประชุมแล้วเกิดขึ้นได้ ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมาย เป็นไปได้ อย่างน้อยต้องก่อนวันที่ 22 มี.ค. กกต.เร่งแบ่งเขตเลือกตั้งก่อนวันที่ 28 ก.พ. เป็นผลดีกับทุกฝ่าย แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง ถ้าได้เร็วก็ดี แต่ต้องรอบคอบ ทั้งนี้มีว่าที่ผู้สมัครจำนวนหนึ่งสนใจมาร่วมงานกับพรรค ชทพ. หวังว่าถ้ามีโอกาสอย่างน้อยสัก 1 เขตใน กทม. เราจะพยายามเต็มที่

“จุรินทร์” ยัน ปชป.ยังหนุน ก.ม.ของ ครม.

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสภาล่มซ้ำซากว่า ไม่วิจารณ์เป็นเกมการเมืองพรรคไหน แต่ ปชป.พยายามทำหน้าที่ให้เต็มที่ ถือหลักกฎหมายที่เสนอโดย ครม.เป็นกฎหมายหลักที่ต้องสนับสนุน เพราะอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ากฎหมายที่เสนอโดยพรรคการเมืองต้องดูเป็นกรณีไป เช่น พ.ร.บ.กัญชา รวมทั้ง พ.ร.บ.ประมงที่ค้างอยู่เสนอโดยพรรคการเมือง แต่ยังไม่สามารถเข้าพิจารณาในสภาได้ เพราะสภาล่มเสียก่อน ส่วนที่นายกฯจะไปเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรค รทสช.ไม่ขอวิจารณ์และไม่ขอให้ความเห็น เป็นเรื่องปกติ ถ้าจะเป็นนักการเมืองวิถีประชาธิปไตยต้องลงสมัครรับเลือกตั้ง นักการเมืองระบอบประชาธิปไตยเกือบทั้งหมด ลงสมัครรับเลือกตั้งอยู่แล้ว

เพื่อไทยติวเข้มขุนพลภาคเหนือ

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่โรงแรมเซ็นทารา ริเวอร์ ไซด์ จ.เชียงใหม่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส. เชียงใหม่ และประธานยุทธศาสตร์ด้านการเลือกตั้ง ภาคเหนือตอนบน พรรค พท. นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะทำงานนโยบายพรรค พท.ร่วมโครงการสัมมนาเตรียมความพร้อมผู้สมัคร ส.ส.ภาคเหนือตอนบน โดยมีผู้ซึ่งประสงค์สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.พรรค พท. และทีมงาน เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง นพ.ชลน่านกล่าวว่า พรรคเพื่อไทยพร้อมแล้วสำหรับการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นแน่นอนในเดือน พ.ค.66 พรรคเพื่อไทยต้องการชัยชนะอย่างถล่มทลาย เพื่อจัดตั้งรัฐบาลของประชาชน ชูธงขายนโยบายที่ทำได้จริง มีผู้แทนที่ใกล้ชิดประชาชน และแคนดิเดตนายกฯที่บริหารเป็น พร้อมนำนโยบายพรรคไปผลักดันให้เกิดขึ้นจริง

“พิจารณ์” หยัน รบ.อาหารหมดอายุ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 พรรค ภท. จี้ให้นายกฯยุบสภาว่า แน่นอนสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ไปตลอด แต่นายกฯในฐานะแคนดิเดต นายกฯ รทสช.ยังทู่ซี้ เพราะไม่พร้อมเลือกตั้ง ยังไม่สามารถยุบสภาฯได้ การเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของฝ่ายรัฐบาลไม่มีเหลือแล้ว ไม่สามารถควบคุมเสียงในสภาฯ ส่วนร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชงถูกนำมาใช้เป็นเกมทางการเมืองของพรรคหนึ่งมากกว่า สภาฯล่มบ่อยจะส่งผลกระทบด้านลบต่อสภาฯ เป็นเอกภาพของรัฐบาล เป็นเหมือนอาหารที่หมดอายุแล้วแต่ยังต้องกินต่อไป

“อนุดิษฐ์” อัด กฟผ.รีดค่าไฟเกินจริง

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานปราบโกงไทยสร้างไทย น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ผู้อำนวยการสำนักงานปราบโกง หรือ ผอ.สปก. และนายสุพันธุ์ มงคลสุธี รองหัวหน้าพรรค แถลงข่าวการตรวจสอบค่าไฟฟ้าแพง โดย น.อ.อนุดิษฐ์กล่าวว่า คนทั่วไปจ่ายค่าไฟฟ้าอยู่ที่ยูนิตละเกือบ 5 บาท (รวมค่า FT) ดูจากการบริหารต้นทุนการผลิตของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) และราคาไฟฟ้าที่ซื้อจาก สปป.ลาว ราคาที่ประชาชนต้องจ่ายอยู่ขณะนี้แพงเกินจริงไปมาก ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศไทยอยู่ที่ 33,000 เมกะวัตต์ แต่ผู้มีอำนาจไปจ้างเอกชนสร้างโรงไฟฟ้าเป็นกำลังสำรองสูงถึงประมาณ 53,000 เมกะวัตต์ หรือเกือบ 60% ของความต้องการไฟฟ้าจริง สัญญาดังกล่าวอาจเข้าข่ายเอื้อประโยชน์ให้เอกชนหรือไม่ มีโรงงานผลิตไฟฟ้าเอกชนไม่ต่ำกว่า 6 โรงที่ กฟผ.ต้องจ่ายเงิน “ค่าพร้อมจ่าย” ทั้งที่โรงงานดังกล่าวไม่ได้ผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาเลยแม้แต่วัตต์เดียว ค่าไฟฟ้าแพงแบบนี้ แทนที่รัฐบาลจะสั่งการให้คู่สัญญาคือ กฟผ.เจรจากับภาคเอกชนขอปรับลดหรือยกเลิก “ค่าพร้อมจ่าย” ช่วยเหลือประชาชน กลับ อยู่นิ่งเฉย สังคมตั้งข้อสงสัยรัฐกำลังเอื้อเอกชนหรือไม่ กฟผ.ต้องนำสัญญาและสูตรคำนวณ “ค่าพร้อมจ่าย” มาเปิดเผยเพื่อความโปร่งใส หากไม่เป็นธรรมถึงเวลาแล้วที่ผู้รับผิดชอบต้องรีบแก้ไข ไม่ให้เรียกเก็บค่าบริการจนเป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร

กกต.เร่งเครื่องแบ่งเขต ลต.

เมื่อเวลา 10.30 น. สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เผยแพร่เอกสารประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์การแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ดังนี้ 1.จังหวัดที่มี ส.ส.เขตมากกว่า 1 คน ให้ ผอ.กกต.จังหวัดทำรูปแบบการแบ่งเขตภายใน 3 วัน ต้องแบ่งพื้นที่เขตเลือกตั้งแต่ละเขตให้ติดต่อกันและต้องจัดให้มีราษฎรแต่ละเขตเลือกตั้งใกล้เคียงกันแล้วประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างน้อย 3 รูปแบบ เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพรรคการเมืองและประชาชนเป็นเวลา 10 วัน 2.ให้ปิดประกาศรูปแบบการแบ่งเขตไว้ ณ สำนักงาน กกต.จังหวัด ศาลากลางจังหวัด ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) รวมถึงศาลาว่าการ กทม. สำนักงานเขตและศาลาว่าการเมืองพัทยา เผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงาน กกต.จังหวัดผ่านสื่อ เปิดโอกาสให้พรรค การเมืองและประชาชนร่วมแสดงความเห็น 3.จังหวัดที่มี ส.ส.เขต 1 คน ให้ปิดประกาศไว้ตามสถานที่และเผยแพร่ลักษณะเดียวกับข้อ 2

เปิดสเปกรับสมัคร ผอ.กกต.

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นอกจากนี้ กกต.ยังเปิดรับสมัครบุคคลเข้ารับการสรรหาเป็น ผอ.เลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งเขตละ 1 คน และคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งเขตละ 3 คน เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 6-10 ก.พ. โดยมีคุณสมบัติ อาทิ สัญชาติไทย อายุไม่ต่ำกว่า 35 ปีบริบูรณ์ในวันสมัคร มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดนั้นๆ มีความเป็นกลางทางการเมือง ห้ามเป็นบุคคลดังนี้ ติดยา เสพติดให้โทษ บุคคลล้มละลาย หรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ภิกษุ สามเณร นักพรตหรือนักบวช บุคคลอยู่ในระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งไม่ว่าคดีนั้นจะถึงที่สุดแล้วหรือไม่ วิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน อยู่ระหว่างถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ต้องคำพิพากษาให้จำคุก และถูกคุมขังอยู่โดยหมายของศาล เคยต้องคำพิพากษาอันถึงที่สุดว่ากระทำการอันเป็นการทุจริตในการเลือกตั้ง เป็น ส.ส.-ส.ว. สนช. เป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ หรือผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ อยู่ในระหว่างต้องห้ามมิให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นสมาชิก หรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง

กทม.ชง 5 โมเดลฟังข้อวิจารณ์

นายสำราญ ตันพานิช ผอ.กกต. กทม. เปิดเผยว่า สำนักงาน กกต.กทม. ประกาศรูปแบบการแบ่งเขตเพื่อรับฟังความคิดเห็นเป็นเวลา 10 วันตั้งแต่วันที่ 4-13 ก.พ. และจัดทำประกาศไว้ใน QR CODE กทม. จัดทำรูปแบบแบ่งเขตไว้ 5 รูปแบบ หลังจาก 10 วันแล้วจะรวบรวมความคิดเห็นเสนอต่อ กกต.กลางให้วินิจฉัยรูปแบบเขตที่เห็นว่าเหมาะสมที่สุด และภายในวันที่ 16 ก.พ. ทุกจังหวัดจะพิจารณารูปแบบที่เหมาะสมเรียงตามลำดับ ในส่วนของการแบ่งเขตของ กทม.เปลี่ยนแปลงจากการเลือกตั้งปี 62 เดิมมี 30 เขต เพิ่มเป็น 33 เขต ได้ปรับปรุงการแบ่งเขตให้เป็นไปตามเงื่อนไขในมาตรา 27 ของกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส.ก่อนเปิดรับฟังความคิดเห็นให้กว้างขวางที่สุด

ชาวบ้านโวยห้ามหั่น อ.บรบือ

ที่ศาลากลางจังหวัดมหาสารคาม นายเจริญ โสเก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) บัวมาศ นำชาวบ้าน 3 ตำบล ได้แก่ ต.ยาง ต.หนองม่วง และต.บัวมาศ กว่า 100 คน ยื่นหนังสือคัดค้านการแบ่งเขตเลือกตั้งผ่าน น.ส.พิมล โพนทราย ผอ.การเลือกตั้งประจำจังหวัดมหาสารคาม ที่ กกต.ประกาศแบ่งเขต จ.มหาสารคาม 5 เขต เป็น 6 เขต ไม่ให้แบ่งพื้นที่ตำบลใดตำบลหนึ่งของ อ.บรบือ ไปรวมกับพื้นที่อื่นต่อ กกต.มหาสารคาม หลายสิบปี 3-4 ตำบลของ อ.บรบือถูกแบ่งไปรวมกับอำเภออื่น ประชาชนไม่ได้รับการดูแลแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนเลย งบฯไม่ได้รับ ชาว อ.บรบือทั้ง 15 ตำบลจึงคัดค้าน

“วีระ” ซัด “แรมโบ้” ฮุบเงินวิ่งเต้น

เมื่อเวลา 11.15 น. ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล นายวีระ สมความคิด อดีตประธานยุทธศาสตร์แผนงานต้านคอร์รัปชัน พรรคเสรีรวมไทย (สร.) ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม เปิดเผยพฤติกรรมคนสนิทของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยนายวีระกล่าวว่า มีผู้มาร้องเรียนว่าถูกหลอกว่าวิ่งเต้นให้ชนะประกวดราคาโครงการงบฯปี 63 มูลค่าเกือบ 600 ล้านบาท สุดท้ายไม่ชนะ เมื่อทวงขอเงินคืน ไม่คืนเงิน และยังถูกทำร้ายร่างกายอีก ก่อนหน้านี้นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ที่ปรึกษาของนายกฯให้ผู้ใหญ่คนหนึ่งโทรศัพท์หาตนเพื่อเคลียร์ส่วนตัว แต่ยืนยันว่าไม่ขอเคลียร์ส่วนตัวกลัวจะถูกอุ้มฆ่า จึงเลือกมาพบนายเสกสกลที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อให้นายเสกสกลชี้แจง ผู้เสียหายเคยยื่นร้องเรียนหน่วยงานอื่นมาแล้วช่วงกลางเดือน เม.ย.65 จนนายเสกสกลล็อบบี้ว่าจะยอมจ่ายเงินคืนเพื่อยุติเรื่อง ถึงวันนัดเคลียร์ คือวันที่นายเสกสกลไปสมัครเป็นสมาชิกพรรค รทสช. ผู้เสียหายไปดักรอเคลียร์ แต่นายเสกสกลได้ให้ลูกน้องมาขอร้องว่าอย่าเพิ่งเข้ามาร้องเรียน พร้อมรับปากจะคืนเงินให้ กระทั่งเมื่อวันที่ 30 ม.ค. เจอกับนายเสกสกลที่ร้านอาหารย่านจตุจักร โดยนายเสกสกลก็ทำท่าพูดดีกับผู้เสียหาย สุดท้ายเข้ามาล็อกคอและทำร้ายร่างกาย ทำให้ผู้เสียหายมาร้องเรียนกับตน

แฉทวง 2 ล้าน โดนล็อกคอทำร้าย

ขณะที่ผู้เสียหาย (สงวนนาม) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้มายื่นเรื่องศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของรัฐบาลกรณีข้อติดขัดจากการประมูลโครงการกำจัดขยะมูลฝอย ของ กทม. ได้ไปพบนายเสกสกลรับปากจะช่วยเหลือ ตนต้องเสียเงินให้นายเสกสกลประมาณ 2 ล้านบาท พยายามทวงถามเงินคืนแต่ก็เงียบ จนล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 30 ม.ค. ไปดักเจอนายเสกสกล แต่กลับถูกล็อกคอแล้วหนีมาได้ ถึงได้ร้องเรียนต่อนายวีระ เพราะเกรงเรื่องความไม่ปลอดภัย และไม่ต้องการให้ใครตกเป็นเหยื่อนายเสกสกลอีก

“เสกสกล” แจงพัลวัน “วีระ” เป็นเหยื่อ

ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเสกสกลแถลงว่า ตนเป็นฝ่ายถูกขู่กรรโชกทรัพย์ เรื่องนี้เกิดช่วงเดือน เม.ย.65 เป็นช่วงเดียวกับที่ตนมีประเด็นคลิปเสียงไปแจ้งความไว้ที่ สน.ดุสิต วันที่ 6 เม.ย. ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอน ตำรวจได้เรียกนายเอกลักษณ์ (ผู้เสียหาย) มาให้ข้อมูล อีกทางหนึ่งมีผู้ใหญ่บอกว่า จะเคลียร์เรื่องดังกล่าวให้ นึกว่าจะจบ แต่กลับมาเล่นงานตนช่วงนี้อีก ไม่ทราบว่าเป็นเพราะอะไร ที่สำคัญไม่รู้ว่านายเอกลักษณ์ เสียหายอะไร ไม่เคยรับอะไรมาจากนายเอกลักษณ์ เพราะนายเอกลักษณ์อ้างว่า “เฮียบุ๊ง” คือผู้เสียหาย แต่ยืนยันไม่เคยรับอะไรจาก “เฮียบุ๊ง” ที่สำคัญ “เฮียบุ๊ง” เป็นพยานให้ตนที่ สน.ดุสิต และนายเอกลักษณ์ คุกคามตนมาถึง 3 ครั้ง เมื่อนายเอกลักษณ์รู้ว่าตนไปแจ้งความไว้ ก็ไปแจ้งความตนข้อหาทำร้ายร่างกายอีก 7 วันให้หลัง ประเด็นนี้จะแจ้งความกลับ แก๊งนี้ต้องเอาให้ถึงคุกให้ได้ไม่ปล่อยไว้ ส่วนนายวีระตกเป็นเครื่องมือของเขา โดยไม่มีการตรวจสอบ ไม่เข้าใจว่า หวังผลการเมืองดิสเครดิตช่วงทำงานให้พรรค รทสช.หรือไม่ ยืนยันไม่ใช่ไลน์ตน ใครทำขึ้นมาก็ได้

“ตะวัน–แบม” น้ำตาลต่ำทรงตัว

วันเดียวกัน รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ออกแถลงการณ์ ชี้แจงอาการป่วยของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และน.ส.อรวรรณ ภู่พงษ์ หรือแบม ฉบับที่ 3 ระบุว่า วันที่ 2 ก.พ. วันที่ 10 ของการรักษา น.ส.ทานตะวัน ยังคงไม่รับประทานอาหารแต่จิบน้ำ รู้สึกตัวดี ยังมีอาการอ่อนเพลีย ตาลาย ปากแห้ง ยังมีเลือดออกตามไรฟัน ไม่มีเลือดออกผิดปกติ หรือจุดจ้ำเลือดออกที่บริเวณอื่น ยังเจ็บหน้าอกด้านซ้ายเวลาพลิกตะแคงตัว มีอาการแสบร้อนลิ้นปี่ มีลมในช่องท้อง นอนหลับได้เป็นพักๆ สามารถโต้ตอบได้ อารมณ์อยู่ในเกณฑ์ปกติ การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย สัญญาณชีพปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดเจาะจากปลายนิ้วยังคงต่ำกว่า 70 มก./ดล. ปฏิเสธคำแนะนำเรื่องการดื่มน้ำผสมวิตามินซี เพื่อบรรเทาอาการเลือดออกตามไรฟัน ส่วน น.ส.อรวรรณ ยังคงไม่รับประทานอาหารแต่จิบน้ำ รู้สึกตัวดี ยังมีอาการอ่อนเพลีย ปากแห้ง ปวดกรามลดลง มีอาการแสบร้อนลิ้นปี่ มีลมในช่องท้อง ต้นขาอ่อนแรง เกร็งขาเหมือนเป็นตะคริว เวียนศีรษะ นอนหลับได้เป็นพักๆ สามารถโต้ตอบได้ อารมณ์ปกติ การตอบสนองทางอารมณ์เหมาะสมกับเรื่องราวที่พูดคุย สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดที่เจาะจากปลายนิ้วเริ่มต่ำกว่า 70 มก./ดล.

ปล่อยคนแรกผู้ต้องหาคดี ม.112

เมื่อเวลา 18.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน องค์กรพัฒนาเอกชนที่ช่วยเหลือด้านกฎหมายแก่ผู้ต้องหาในคดีชุมนุมทางการเมืองและคดีมาตรา 112 เผยแพร่ข้อความผ่านสื่อสังคมออนไลน์ว่า วันที่ 3 ก.พ. เวลา 17.00 น. ศาลอาญาอนุญาตให้ประกันตัว “เอก” พนักงานบาร์วัย 28 ปี ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 จากกรณีแชร์ภาพและข้อความจากเพจเฟซบุ๊ก “KTUK-คนไทยยูเค” ถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มาตั้งแต่วันที่ 22 ธ.ค.2565 หลังพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง ทั้งนี้ ข้อมูลของศูนย์ทนายระบุถึง “เอก” พนักงานบาร์วัย 28 ปีรายนี้ว่า ถูกคุมขัง ช่วงเวลาไล่เลี่ยกับคดี “ก้อง” อุกฤษฏ์ นักศึกษานิติศาสตร์ รามคำแหงวัย 24 ปี ที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 และไม่ได้รับการประกันตัวตั้งแต่ชั้นการสั่งฟ้องคดี ในปี 66 ยังไม่ได้มีการสืบพยานหรือมีคำพิพากษา

คุณกำลังดู: "บิ๊กตู่" โวยสภาล่ม ขอส.ส.อย่าเล่นเกม อําเภอบรบือ-คัดค้าน ซอยพื้นที่แบ่งเขตเลือกตั้ง (คลิป)

หมวดหมู่: การเมือง

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2620608