"บิ๊กป้อม" ยันสัมพันธ์ "บิ๊กตู่" พี่น้องเหมือนเดิม ปัดคู่แข่งการเมือง

“บิ๊กป้อม” ย้ำอีกครั้ง สายสัมพันธ์ “บิ๊กตู่” พี่น้องเหมือนเดิม ถึงแตกไปอยู่ รทสช.ก็ไม่ถือเป็นคู่แข่งการเมือง ประกาศเจตนารมณ์ขอก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด จะไม่ขัดแย้งกับใคร พท.แห่ขอของขวัญปีใหม่ “ลุงตู่” ยุบสภา ห่วงรัฐใส่เกียร์ว่างมุ่งแต่หาเสียง “สุทิน” ลั่นพร้อมเป็นรัฐบาลพรรคเดียว “ท็อป” หวัง 25 ที่นั่งไม่เกินเอื้อม “ชวน” ชี้สภาอาจอยู่ครบ 8 สมัยประชุม “พรเพชร” เชื่อยุบก่อนเส้นตาย ฉุนถูกกล่าวหาต่อสายคุย 2 ป. กกต.แบมือขอสำนักงบฯ 5 พันล้าน อ้างเพิ่มเป็น 400 เขต ใช้บัตร 2 ใบ “ปิยบุตร” ชำแหละพิษร้าย รธน.60 แค่เครื่องมือสืบอำนาจ

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ออกมาย้ำอีกครั้งว่าสายสัมพันธ์กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ที่ไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ ยังคงความเป็นพี่น้องเหมือนเดิม ประกาศลั่นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าพรรค ต้องการก้าวผ่านความขัดแย้งทั้งหมด จะไม่ขัดแย้งกับใคร

“บิ๊กป้อม” ย้ำสายสัมพันธ์พี่น้อง

เมื่อวันที่ 31 ธ.ค. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม แยกไปอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ว่า ยังไงก็เป็นพี่น้องกันเหมือนเดิม อยู่กันมา 40-50 ปี เราดูแลกันมา ส่วนเรื่องของการเมืองก็เป็นการเมือง เรื่องส่วนตัวก็เป็นเรื่องส่วนตัว เรื่องของพี่น้องก็เป็นเรื่องของพี่น้อง ไม่มีปัญหาอะไร ยังรักกันเหมือนเดิม ไม่มีความขัดแย้งอะไรกัน พรรค พปชร. เราต้องการก้าวข้ามความขัดแย้งทั้งหมด ไม่ให้มีความขัดแย้งเลย เรื่องความขัดแย้งจะเป็นหัวใจสำคัญในการเดินหน้าของพรรคเราต้องการก้าวผ่านความขัดแย้งทั้งหมด ตนจะไม่ขัดแย้งกับใคร และที่ผ่านมาก็ไม่เคยทะเลาะกับใคร รวมถึงไม่ทำให้การวางตัวและการทำงานลำบาก

ไม่ถือเป็นคู่แข่งทางการเมือง

เมื่อถามว่ามีลูกพรรคออกมาประกาศหนุนให้เป็นแคนดิเดตนายกฯ พล.อ.ประวิตรตอบว่า ไม่ขอแสดงความคิดเห็น ต้องรอประชุมพรรคก่อน เมื่อถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ที่จะเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรค รทสช. จะถือว่าเป็นคู่แข่งหรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า “พล.อ.ประยุทธ์ถือเป็นน้อง ไม่ถือว่าคู่แข่งกัน แต่ถ้าทางการเมืองใครดีกว่าคนนั้นก็เป็นไป ไม่มีปัญหา ไม่ขอแสดงความเห็นเพราะการเป็นนายกฯไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านขั้นตอนการเลือกในสภา ยืนยันว่าถึงจะมี ส.ส.ของพรรคย้ายออกไป ก็ไม่กังวลใจ เป็นเรื่องธรรมดาของนักการเมือง ที่มีย้ายเข้า-ออก พรรคไหนย้ายไปแล้วสะดวกใจกว่า ได้ผลประโยชน์มากกว่า ก็อยู่ที่นั่น เป็นเรื่องส่วนตัวที่บังคับกันไม่ได้

พท.ห่วงรัฐเกียร์ว่างมุ่งหาเสียง

นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประธานวิปฝ่ายค้าน ให้สัมภาษณ์ว่าของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จาก พล.อ.ประยุทธ์คืออยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ใส่ใจ และให้คุณค่ากับความรู้สึกของประชาชนให้มากๆว่าประชาชนรู้สึกอย่างไร ขาดแคลนอะไร อัดอั้นอะไร เขาต้องการอะไร อะไรที่ พล.อ.ประยุทธ์พอจะเสียสละให้ได้ ก็ควรให้เป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน ถ้าท่านใส่ใจความรู้สึกประชาชนจะรู้เอง ปีหน้าจะเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง ทุกพรรคจะเดินสู่แนวทางตัวเอง ความไม่ลงตัวทั้งในพรรครัฐบาลหรือฝ่ายค้าน จะเห็นเป็นรูปธรรม ความขัดแย้งจะมากขึ้น จิตใจประชาชนจะจดจ่อกับการยุบสภาฯหรือไม่ยุบสภาฯ จะมีการเลือกตั้งเมื่อใด เชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์จะยุบสภาก่อนสิ้นวาระ และจากนี้ไปก่อนมีการเลือกตั้ง การเมืองไทยจะกึ่งๆ สุญญากาศ ข้าราชการอาจปล่อยเกียร์ว่าง รัฐบาลเองก็จะทุ่มเทไปที่การหาเสียง ศักยภาพการแก้ปัญหาประชาชนจะลดลง ซึ่งเป็นเรื่องไม่ดี

ประกาศพร้อม รบ.พรรคเดียว

เมื่อถามว่ามองการจับขั้วการเมืองหลังเลือกตั้งอย่างไร นายสุทินตอบว่า คงยังไม่มีใครคิดการณ์ไกลขนาดนั้น หลังเลือกตั้งคะแนนออกมาแล้วใครได้เท่าไหร่ค่อยถึงเวลาจับขั้ว เมื่อถามว่าพรรคเพื่อไทยพร้อมจับได้กับทุกพรรคหรือไม่ นายสุทินตอบว่า เวลานี้รู้แต่ว่าพรรคเพื่อไทยยืนอยู่ในฝ่ายประชาธิปไตย และเชื่อว่าเราจะเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่หนึ่ง เป็นเสียงข้างมาก เชื่อว่าจะได้ ส.ส.เกินครึ่งหนึ่งของสภา และตั้งใจจะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ถ้าประชาชนให้ความไว้วางใจเราพร้อมเป็นรัฐบาลพรรคเดียว เมื่อถามย้ำว่าหากจำเป็นจะจับขั้วกับพรรค พปชร. หรือพรรค รทสช. ได้หรือไม่ นายสุทินตอบว่า ยังไม่คิดเรื่องนี้

“สมคิด” ท้าทายให้เปิดหน้าชัดๆ

ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จาก พล.อ.ประยุทธ์ คือยุบสภาโดยเร็วจะเป็นของขวัญที่ดีที่สุดให้ประชาชนตัดสินอนาคตตัวเองและประเทศ หากอยากเป็นนายกฯต่อ ขอให้เข้าตามตรอกออกตามประตู สมัครสมาชิกพรรคเข้าสู่สนามเลือกตั้ง พวกตนที่เป็นนักการเมืองยินดีต้อนรับ แต่ถ้าอยู่ๆไม่ได้เป็นสมาชิกพรรครอให้เขาเสนอชื่อเป็นนายกฯ ถือว่าไม่สมควร หลายครั้งอ้างว่าตัวเองไม่ยุ่งเกี่ยวกับพรรค การเมือง เหมือนที่ผ่านมากับพรรค พปชร. หลายครั้งที่ พล.อ.ประยุทธ์อ้างว่าตัวเองไม่ยุ่ง ปัญหาในพรรคก็ไม่จบ ส่งผลกระทบกับการบริหารราชการเหมือน 4 ปีที่ผ่านมา ในเมื่อจะเล่นก็ขอให้เปิดหน้าชัดๆ

ยุบสภาของขวัญปีใหม่คนไทย

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการออกมาตรการแจกของขวัญปีใหม่ 2566 ว่า ถ้ารัฐบาลจะหวังแจกของขวัญปีใหม่ เพื่อหาเสียงล่วงหน้ามัดจำกับประชาชนคงไม่มีใครตื่นเต้นอะไร แทนที่จะแจกแล้วปังกลับแป้ก หลายมาตรการยิ่งแจกบ่อย ยิ่งน้อยลง ไม่เกิดประโยชน์ ประชาชนอ่านเจตนาออกว่ารัฐบาลหว่านพืชย่อมหวังผล เมื่อมุกแป้ก พล.อ.ประยุทธ์ควรรับสภาพ 3 ป.มาด้วยกันแท้ๆ ยังแตกฉานซ่านเซ็นไปคนละทิศละทาง เรือแป๊ะที่ว่าแกร่งสนิมเนื้อในกัดกินจนผุกร่อน พรรคของ 3 ป. ตักปลาในบ่อพวกเดียวกันแบบไม่เกรงใจกัน เวลาเจอหน้าใน ครม.ยังมองหน้ากันได้หรือไม่

ภท.เถียงลั่นไม่เคยยี้ใส่ “ลุงตู่”

นายพลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ประจำตัวนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวหาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยว่า พลิกลิ้นมาร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ ทั้งที่เคยประกาศว่าไม่เอา พล.อ.ประยุทธ์ ว่า ความจำนายณัฐชาผิดเพี้ยน เลือกตั้งปี 2562 เราไม่เคยบอกว่าจะจับมือกับใคร หรือไม่จับมือกับใคร ครั้งนี้ก็เช่นกัน นายอนุทินไม่เคยปิดประตูใส่หน้าใครโดยไร้เหตุผล เงื่อนไขเดียวตอนนั้นคือเราจะไม่ให้ ส.ว.มากำหนดเบ็ดเสร็จว่าใครต้องเป็นนายกฯ ส่วนที่บอกว่าพรรคเราใช้พลังดูดแบบไม่สนใจเสียงประชาชน พรรคเรามีผลงานมีระบบจัดการที่ดี คนทำงานเขาต้องการร่วมงานกับพรรคที่มีผลงาน

“ท็อป” หวัง 25 ที่นั่งไม่เกินเอื้อม

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวว่า พรรค ชทพ.มีคนเข้ามาเพิ่มเป็นระยะๆ แต่ไม่หวือหวาเหมือนพรรคใหญ่อย่างภูมิใจไทย เราเปรียบเหมือนตั้งไข่ใหม่ ยอมรับว่าบารมีและประสบ การณ์การเมืองต้องมาเริ่มนับกันใหม่ ต้องค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ไม่สามารถรีบได้ ตนยังทำงานการเมืองอีกนานและรอได้ ส่วนเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ขอไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี เราพร้อมรักษาเข็มขัดแชมป์ไว้สุดกำลัง มีกระแสข่าวว่าพรรค พปชร.จะส่งนายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. หลานชายนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคชทพ. ลงชนเขตเดียวกับนายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.สุพรรณบุรีนั้น เราไม่ว่ากัน แต่พูดได้แค่ว่าลองกันสักตั้งหนึ่ง

โวถ้าวัดกันที่ผลงานไม่แพ้ใคร

นายวราวุธกล่าวว่า ส่วน จ.นครปฐม ทางตระกูลสะสมทรัพย์ก็ทำงานไม่ประมาท หลังมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว หลังปีใหม่ไปแล้วจะได้เห็นอะไรชัดเจนมากขึ้น เมื่อถามว่าการเลือกตั้งรอบหน้าจะหนักหรือไม่ นายวราวุธตอบว่า มีสมัยไหนที่ไม่ใช้ปัจจัยบ้าง ตั้งแต่จำความได้ทุกครั้งที่มีการเลือกตั้ง มักพูดกันว่ารอบนี้หนักกว่ารอบก่อนเสมอ สรุปคือหนักทุกรอบ แต่ท้ายที่สุดแล้วการดึงตัว ส.ส. ปัจจัยบางอย่างจะมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นเป็นเรื่องปกติ เป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อถามว่ามีเสียงวิจารณ์ว่า ชทพ.จะได้ไม่ถึง 10 ที่นั่ง นายวราวุธตอบว่า ไม่อยากพูด เราจดไว้ ที่บอกว่าต่ำสิบ ประเมินเท่าไรเราไม่เกี่ยง แต่หากพูดถึงศักยภาพการทำงาน รับประกันไม่แพ้ใคร หากเอาหัวหน้าแต่ละพรรคมาประชัน ตนทำงานไม่แพ้หัวหน้าพรรคอื่นแน่นอน

“ชวน” ชี้สภาอาจอยู่ครบ 8 วาระ

ขณะที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทน ราษฎร กล่าวถึงการประเมินเรื่องยุบสภาว่า อาจเกิดขึ้นช่วงปลายสมัยประชุมสภาหรือยุบหลังวันที่ 28 ก.พ.2566 ถือว่าเป็นไปได้ทั้งนั้น มองว่าสภาอาจอยู่ทำงานครบ 8 สมัย แต่จะไม่ครบเทอมคือวันที่ 23 มี.ค. การยุบสภาอาจเกิดก่อนเพียงสัปดาห์เดียว ส่วนสถานการณ์การเมืองหลังปีใหม่ ขณะนี้ยังประเมินไม่ได้ ต้องรอดูทิศทางและความพร้อมของแต่ละพรรคอีกครั้ง ขณะนี้มีความชัดเจนเฉพาะใครอยู่ที่ไหนเท่านั้น

“พรเพชร” เชื่อยุบก่อนเส้นตาย

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา กล่าวว่า อาจมีการยุบสภาก่อนครบวาระเพียงเล็กน้อย ถือเป็นการเมืองที่ใช้ระบบรัฐสภาและหลักนิติรัฐที่น่าพอใจ ไม่ใช่ว่าเลือกตั้ง 1 ปีแล้วยุบสภา ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญขอให้แก้ไปตามระบบ กฎหมายที่ผ่านออกไป ถ้าเทียบกับที่ผ่านมาต้องพูดว่าดีมาก แต่หากพูดถึงความพึงพอใจถือว่าดีพอสมควร เมื่อถามถึงความเป็นอิสระของ ส.ว. นายพรเพชรกล่าวยืนยันว่าเป็นอิสระ ไม่เคยไปสั่งการใคร รู้สึกไม่พอใจที่ถูกกล่าวหาว่าลุกไปรับโทรศัพท์รับงาน ระหว่างทำหน้าที่ประธาน ทั้งที่ความจริงลุกไปเข้าห้องน้ำ เมื่อถามว่าตลอดการทำหน้าที่ประธานวุฒิสภามา รัฐบาลได้ขอความร่วมมืออะไรมาบ้าง นายพรเพชรตอบว่าไม่มี อาจไม่ใช่การสั่งแต่เมื่อกฎหมายเข้ามาแล้ว รัฐบาลจะสอบถามมาว่าจะเข้าเมื่อไหร่ เร่งได้หรือไม่ แต่การให้ ส.ว.ลงอย่างไร มีอยู่อย่างเดียวคือเรื่องรัฐธรรมนูญ แต่เขาไม่ได้มาบอก ใช้วิจารณญาณเอาเอง

ฉุนถูกกล่าวหาต่อสายคุย 2 ป.

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ เคยต่อสายพูดคุยหรือไม่ นายพรเพชรตอบว่า ต่อสายไม่ค่อยมี มีคุยเรื่องอื่น คุยธรรมดา แต่ พล.อ.ประวิตรท่านไม่คุยด้วย ส่วนกระแสข่าวการแบ่งฝ่าย ส.ว. เป็นของ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรนั้น เรื่องนี้มีคนประทับตราให้ ตนไม่ทราบ แต่เขามีสิทธิ์คิดเช่นนั้น เพราะ ส.ว.หลายคนเคารพนับถือ พล.อ.ประวิตรตลอดมา อีกด้านหนึ่งก็ทำงานให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นเรื่องธรรมดา ตามรัฐธรรมนูญ ส.ว.ต้องวางตัวเป็นกลาง สำหรับตนวางตัวเป็นกลางอยู่แล้ว แต่ใครจะคิดอย่างไรก็คิดได้

กกต.เตรียมพร้อมจัดเลือกตั้ง

วันเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.เตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้ง ส.ส.แล้ว ทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่วางแผนไว้ เมื่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง (ฉบับแก้ไข) มีผลใช้บังคับ กกต.จะเร่งออกระเบียบและประกาศ ทั้งเรื่องวิธีการสรรหาผู้สมัครไพรมารีโหวต รวมทั้งการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส. ทางสำนักงาน กกต.ประจำจังหวัด (กกต.จว.) เตรียมจัดทำเขตเลือกตั้งไว้แล้วอย่างน้อย 3 รูปแบบ โดยยึดตามจำนวนประชากรปี 2564 แต่หากช่วงต้นปีหน้ามีการประกาศจำนวนประชากรปี 2565 ต้องมีการคำนวณจำนวน ส.ส.ในแต่ละจังหวัดใหม่และดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งในจังหวัดที่มีการเปลี่ยนแปลงจำนวน ส.ส.ใหม่ แต่คาดว่าไม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมาก

ของบฯ 5 พันล้านอ้างเพิ่มเขต

นายอิทธิพรกล่าวอีกว่า กกต.ยังได้พัฒนาแอปพลิเคชันฉลาดเลือก Smart Vote เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารการเลือกตั้ง สำหรับงบประมาณจัดการเลือกตั้งได้จัดทำคำขอต่อสำนักงบประมาณเรียบร้อยแล้ว เสนอขอไป 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่เสนอไป 4,200 ล้านบาท ในการจัดเลือกตั้งเมื่อปี 2562 สาเหตุที่มากกว่าเดิมเพราะมีเขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นจาก 350 เขตเป็น 400 เขต และใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ มีกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง (กปน.) เพิ่มขึ้นจากหน่วยละ 5 คน เป็น 9 คน นอกจากนี้ กกต.ได้เตรียมแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัดและชุดเคลื่อนที่เร็วไว้ทุกพื้นที่ รวมทั้งชุดปฏิบัติการข่าวทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กกต. เตรียมความพร้อมและมีแผนรองรับสถานการณ์ไว้แล้ว

“ปิยบุตร” ชำแหละพิษร้าย รธน.60

ด้านนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวถึงภาพรวมสถานการณ์การเมืองในปี 2565 ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการว่า ภาพใหญ่ทั้งปีน่าจะเป็นปีที่แสดงออกถึงพิษร้าย พิษภัยของรัฐธรรมนูญ 60 แม้กระทั่งในกลุ่มรัฐบาลเอง แตกแยกกันเพราะรัฐบาลชุดนี้เป็นแบบสหพรรค ช่วงต้นที่เข้าเรียกว่าฮันนีมูน พอผ่านไปแต่ละพรรคโวยวายเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นรัฐบาลผสมที่แก้ปัญหาไม่ได้ นายกฯอยากยึดกุม ความเป็นรัฐบาล แต่ปัญหาคือกระทรวงใหญ่ไปอยู่ในมือพรรคอื่น รวมทั้งนายกฯเองก็ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค พปชร. ไม่ได้คุมพรรคเอง ความจริงเป็นปัญหามาตั้งแต่เริ่มต้น ขณะที่ซีกฝ่ายค้านตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เจอการดึงตัว ส.ส. ทำให้เสียงในสภาฯทิ้งขาดจากที่เคยเสียงปริ่มน้ำ การประชุมสภาฯถูกลดความสำคัญ ยกเว้นเรื่องที่มีความสำคัญต่อรัฐบาล วันนี้ภาพลักษณ์สภาฯไม่ใช่ผู้แทนราษฎร แต่เป็นผู้แทนกลุ่มก้อนอำนาจ

รธน.60 แค่เครื่องมือสืบอำนาจ

นายปิยบุตรกล่าวว่า 4 ปีมานี้โครงสร้างรัฐธรรมนูญ 60 ทำให้ภาพลักษณ์สภาฯไม่ใช่เป็นสภาผู้แทนราษฎรแล้ว แต่ไปในทางผู้แทนของกลุ่มอำนาจทางการเมือง แต่ปัญหานี้ไม่ได้มีแค่ในไทย ปัญหา ประชาธิปไตยแบบผู้แทนเป็นกันทั่วโลก ส่วนซีก ส.ว.ยิ่งเป็นปัญหาใหญ่ นับเป็นการสมวัตถุประสงค์ของการออกแบบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เป็นเครื่องมือในการประกันการสืบทอดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์กับพวก เป็นเครื่องไม้เครื่องมือพิทักษ์รักษาระบบรัฐธรรมนูญปี 60 ด้านบริหาร หรือฝ่ายรัฐบาล มองว่าปัญหาใหญ่คือพอเป็นรัฐบาลสหพรรค ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ขาลอย ไม่ได้เป็นหัวหน้าพรรค ไม่ได้เป็นสมาชิกพรรค นักการเมืองเลยแสดงฤทธิ์เดช ประเทศไทยเหมือนอยู่ในวิกฤติ เราต้องการรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ ภาวะผู้นำเพียงพอ มีเสถียรภาพพอ แต่เรากลับได้รัฐบาลที่ไม่มีเสถียรภาพ แก้ไขวิกฤติไม่ได้ เป็นการเมืองแบบตบจูบๆ แต่ก็อยู่กันไปได้

นิติสงครามใช้กฎหมายแทนอาวุธ

นายปิยบุตรกล่าวว่า ขณะที่ฝ่ายตุลาการ หรือด้านองค์กรอิสระ ปี 65 แสดงให้เห็นถึงรัฐธรรมนูญ อันเป็นที่มาที่ไปของผู้ที่ไปดำรงตำแหน่งอยู่ในองค์กรอิสระ มีที่มาจาก คสช. โดย สนช.ตั้งมา ขอเรียกภาพใหญ่ของกระบวนการยุติธรรมว่าเป็นนิติสงคราม คือการประหัตประหารกันโดยไม่ต้องใช้อาวุธ แต่ใช้กฎหมายแทน ทำให้องค์กรตุลาการที่เราตั้งความหวังว่าจะถูกออกแบบมาเพื่อประกันสิทธิ์ ตรวจสอบอำนาจรัฐ ประกันหลักนิติธรรม ไม่เกิดขึ้นจริง คนกลุ่มนี้ที่เขียนรัฐธรรมนูญมาชุมนุม สุดท้ายจบที่รัฐประหาร วันนี้ก็มาได้ดิบได้ดีเป็นองค์กรอิสระบ้าง เป็น ส.ว.บ้าง เข้ามาสิงสู่ในประชาธิปไตย เพื่อจะขัดขวางให้ประชาธิปไตยไปต่อไม่ได้

คุณกำลังดู: "บิ๊กป้อม" ยันสัมพันธ์ "บิ๊กตู่" พี่น้องเหมือนเดิม ปัดคู่แข่งการเมือง

หมวดหมู่: การเมือง

แหล่งที่มา: https://www.thairath.co.th/news/politic/2591808